วิเคราะห์สนาม ปราจีนบุรี
เต็งหนึ่งว่าที่ ส.ส.ปราจีนบุรี ทั้ง 3 เขต
 

ศึกสนามเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ปราจีนบุรี (สส.) แบ่งเป็น 3 เขตเลือกตั้ง ช่วงทิ้งโค้งสุดท้ายนี้ ผู้สมัคร สส.ที่คาดว่ามาแรงเป็นเต็งหนึ่ง จะได้เป็น สส.นั้น
 
 
วิเคราะห์สถานการณ์ เริ่มจากสนาม เขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ประกอบด้วย อ.เมืองปราจีนบุรี บ้านสร้าง ศรีมโหสถ เขตนี้ ถือว่าเป็นสนามช้างชนช้าง อย่างแท้จริง ระหว่าง นายอำนาจ วิลาวัลย์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย กับ นายเกียรติกร หรือ หรั่ง พากเพียรศิลป์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย

โดยนายอำนาจ วิลาวัลย์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย นั้น บนเส้นทางการเมืองเริ่มต้นจาก การเป็น อดีต ส.ท.เมืองปราจีนบุรี เป็นต่อ คู่แข่งในสนามคนอื่นๆ หลายขุม เพราะฐานเสียงทางการเมืองยาวนาน นับจากการเป็นหลานชาย “โทน” ของ "สุนทร วิลาวัลย์" อดีต รมช.สาธารณสุข ส.ส.ปราจีนบุรี 8 สมัยซ้อน และ หลานชายของนางบังอร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) ซึ่งมีฐานเสียงครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งจังหวัด
 

อีกทั้งในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ฐานเสียงเดิมที่มี 17ชุมชน ก็อยู่ในมือของ "อำนาจ" เพราะเป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ลงเล่นการเมืองครั้งแรกปี 2543 ลงสมัคร ส.ท.เมืองปราจีนบุรี ได้รับเลือกตั้งติดต่อกันรวม 2 สมัย มีบุตร 1 คน ก้าวเข้ามาเป็น อดีต สส.ปราจีนบุรี 2 สมัย  
 

แม้ ยุค “คสช.” อำนาจ ไม่ทิ้งพื้นที่ ขยันลงพื้นที่ไม่ขาด อีกทั้งยังมีเสียงในกลุ่มนักธุรกิจและภาคเอกชนจำนวนหนึ่ง เนื่องจากเคยคลุกคลีอยู่กับแวดวงธุรกิจ และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ รอง หน.พรรคภูมิใจไทย ซึ่งจะแพ้ไม่ได้

ด้านคู่แข่งคนสำคัญ คือนายเกียรติกร หรือ หรั่ง พากเพียรศิลป์ นั้น มีพี่ -น้อง ที่ล้วนส่วนใหญ่ เป็นนักการเมืองท้องถิ่น เป็นฐานเสียงสำคัญคือ นายบุญเกื้อ หรือ “เล็กน้ำ” พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ฐานเสียงคุมทั้ง 17 ชุมชน ในเขตตัวเมืองปราจีนบุรี, นายสมดุลย์ พากเพียรศิลป์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลรอบเมือง (อบต.) อ.เมืองปราจีนบุรี
 

โดย ในอดีตนายเกียรติกร เคยเป็นอดีต ส.ส. ปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไต (คะแนน 61,538) (เลือกตั้งใหม่เพราะนายสุนทรถูกใบแดง) (ย้ายมาพรรคประชาธิปัตย์) ปี 2551 ส.ส.ปราจีนบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้าเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัดปราจีนบุรี-รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี

จากที่เป็นรอง นายเกียรติกร จึงขยันลงพื้นที่เท่าตัว โดยลงพื้นที่เช้า,กลางวัน,เย็น ไม่ขาด ในการเดินพบประชาชนตามตลาดนัด,เคาะประตูบ้าน,วิ่งรถกระจายเสียง ไปงานบุญ-งานบวช-งานสวดศพ, งานแต่ง ไม่ขาด
 

และมีโอกาสพลิกล็อคชนะได้ทุกโอกาส โดยผู้ตัดสินคือประชาชน ที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขภาวะข้าวยากหมากแพงปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้
 

แต่มีตัวแปร ที่ใคร ๆ อาจมองข้าม ในเขตเลือกตั้งที่ 1 นี้ยังมีผู้สมัคร สส.อีกคนที่เป็น “ม้ามืด” นั่นคือ นายนุกูลกิจ หรือ สจ.เบ๊นซ์ พากเพียรศิลป์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นบุตรชายของนายบุญเกื้อ หรือเล็กน้ำ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปราจีนบุรี และเป็น หลายชายของนายเกียรติกร หรือ หรั่ง พากเพียรศิลป์ ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย 
 

นายนุกูลกิจ หรือ สจ.เบ๊นซ์ หาเสียงในทุกรูปแบบ ทั้งรถวิ่งกระจายเสียง,โปสเตอร์แนะนำ,การเดินเคาะประตูบ้าน ใครก็ประมาทไม่ได้ เข้าทำนอง “ตาอินกับตานา” นายนุกูลกิจ หรือ สจ.อาจเป็น “ตาอยู่”คว้าพุงปลา หรือ ชัยชนะไปได้แบบม้ามืด ก็เป็นได้ เพราะเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขจากอกลุกชายของนายบุญเกื้อเอง ย่อมเข้มข้นกว่าน้ำ หรือ นายเกียรติกรที่เป็นน้องชาย และที่เหนืออื่นใดอย่าลืมว่า พลเอกประยุทธ์ “บิ๊กตู่” จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แคดิเดต นายกรัฐมนตรี อดีตเคยเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักาพระองค์(พล.ร2รอ.) หรือ หน่วยบูรพาพยัคฆ์มาก่อน ปราจีนบุรีเป็นเมืองทหารบก ถึง 2 ค่าย คือ พรหมโยธี กับค่ายจักรพงษ์ ดังนั้น ทั้งอำนาจ และ เกียรติกร ประมาทไม่ได้เด็ดขาด ดังกล่าว นายนุกูลกิจ หรือ สจ.เบ๊นซ์อาจเป็น “ตาอยู่”คว้าพุงปลาไปกินก็ได้
 

แต่เต็งหนึ่ง ที่คาดหมายว่าจะได้รับการเลือกตั้งเป็น สส.ปราจีนบุรีในเขตเลือกตั้งที่ 1 คือ นายอำนาจ วิลาวัลย์ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย หลานชายโทนคนเดียวของ ตระกูลวิลาวัลย์ ที่จะแพ้ศึกครั้งนี้ไม่ได้!

เขตการเลือกตั้งที่ 2 (อ.ประจันตคาม,อ.ศรีมหาโพธิ) ผู้ที่มาแรงในโค้งสุดท้ายนี้ คือนายชยุต ภุมมะกาญจนะ อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย มีฐานเสียงทางการเมือง บิดาคือนายสมาน ภุมมะกาญจนะ อดีต รมช.คมนาคม แม้จะเสียชีวิตแล้ว แต่วางฐานการเมืองให้บุตรชายมายาวนาน และ นายชยุต ไม่เคยทิ้งพื้นที่ออกงานประเพณี,งานวิถีชีวิตชาวบ้านตลอดไม่เคยขาด ยากที่ผู้สมัคร สส.หน้าใหม่จะโค่นลงได้ ประกอบกับมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ที่มีนายสุนทร วิลาวัลย์อดีต รมช.สาธารณะสุข สส.ปราจีนบุรี 8 สมัยซ้อน เป็นกองหนุนจึงทะลุปุโปร่งได้เป็นเต็งหนึ่ง ที่พรรคภูมิใจไทยฟันธงได้เป็น ว่าที่สส.เขต 2 แน่นอน

มีคู่แข่ง ในทุกสมัยคือ น.ส.เยาวลักษณ์ หรือครูเล็ก โตอนันต์ อดีตผู้สมัคร สส.พรรคประชาธิปัตย์ ฐานเสียงเก่าจากที่เคนเป็นอดีตผู้สมัคร สส.ในอดีต แม้งวดนี้ ทางพรรคจะส่งนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรีมาช่วงหาเสียงให้

แต่ ยังมีการถูกตัด-แบ่งคะแนนเสียง จากผู้สมัคร สส.หน้าใหม่ในพรรคต่าง ๆ อาทิ นายสมบัติ สิทธิมงคล อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) ผู้สมัคร สส.พรรคพลังประชารัฐ มีฐานเสียงหลัก ๆ แถบ ต.บ้านหอย,ต.เกาะลอย,ต.บ้านด่าน ทั้งผู้ใหญ่บ้าน –กำนัน และ ยังมีการตัดคะแนนจากนายสมเกียรติ หรือ สจ.หลาย คำดำ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (ส.อบจ.) ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย มีฐานเสียงส่วนใหญ่ฝั่ง ต.หนองแสง,ต.ดงบัง และ ต.ประจันตคาม (บางส่วน)
 

เขตเลือกตั้งที่ 3 ( อ.กบินทร์บุรี,อ.นาดี ) ผู้ที่เป็นเต็งหนึ่ง คาดว่าจะได้รับการเลือกตั้งเป็น สส.คือนายสฤษฎิ์ บุตรเนียร อดีตสมาชิกวุฒิสภา จ.ปราจีนบุรี (สว.) ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย ก่อนหน้า เป็นสมาชิกสภาเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พ.ศ. 2533-2538 ,ทนายความ ฝ่ายกฎหมายธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำรงตำแหน่งฝ่ายสินเชื่อธนาคารกสิกรไทย, เจ้าของและผู้จัดการโรงเรียนในเครือสายมิตรกรุ๊ป 3 จังหวัด (ปราจีนบุรี , สระแก้ว , นครราชสีมา) กุมฐานเสียงจากผู้ปกครองในแถบ อ.กบินทร์บุรี,อ.นาดี มีฐานเสียงเป็นนักการเมืองท้องถิ่นรุ่นเก่า อาทิ นางรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ 

โดยนายสฤษฏิ์ ถูกวางตัวให้มาลงสมัคร สส.เขต 3 แทนนางพัชรินทร์ เสียงเจริญ อดีต สส.ปราจีนบุรี(คนเดิม) ซึ่งให้ลงสมัครงวดนี้แบบบัญชีรายชื่อ มีฐานเสียงหลักคือนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต รมช.สาธารณสุขเป็นแรงผลักดันสำคัญ 

ส่วนคู่แข่งคนสำคัญ คือ นายคงกฤช หงส์วิไล อดีต สส.ปราจีนบุรี ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย ฐานเสียงเป็นผู้บริหารส่วนท้องถิ่น และฐานเสียงเก่า ที่ผ่านมาลงพื้นที่ตลอดต่อเนื่องไม่ทิ้งพื้นที่ จึงเป็นคู่แข่งที่สูสี
 

แต่จากที่ พรรคภูมิใจไทย มีนายสุนทร วิลาวัลย์ และมีกนกวรรณ วิลาวัลย์ รอง หน.พรรคภูมิใจไทย อยู่ที่ปราจีนบุรีขณะนี้ ย่อมพยายามจนถึงที่สุด ที่จะให้พรรคภูมิใจไทย กวาดเก้าอี้ สส.ปราจีนบุรี เหมา ทั้ง 3เขตเลือกตั้ง