วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:57 น.

ภูมิภาค

พัทลุง พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์

วันเสาร์ ที่ 06 เมษายน พ.ศ. 2562, 17.40 น.

พัทลุง พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์


ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า วันนี้ 6 เมษายน 2562 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายศิลป์ชัย รามณีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทำพิธีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ จำนวน 3 แห่ง คือ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดพระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้ว บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดดอนศาลา และถ้ำน้ำศักดิ์สิทธิ์บนหุบเขาชัยบุรี เพื่อทำน้ำอภิเษกพระพุทธมนต์ทูลเกล้าถวายพระเจ้าอยู่หัวในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจังหวัดพัทลุงเป็นจังหวัดหนึ่งที่มาความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยโบราณ จึงมีแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำพิธีกรรมต่างๆมาตั้งแต่โบราณ เป็นแหล่งน้ำที่ประชาชนเคารพเลื่อมใสและเป็นแหล่งน้ำที่เคยใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโอกาสพระราชพิธีต่างๆ มี 3 แหล่ง
 

ที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 1 นายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จาก บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์พระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้ว ตั้งอยู่ภายในวัดพระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้ว หมู่ที่ 4 ตำบลจองถนน อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือขององค์พระบรมธาตุเจดีย์ ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้างว่ามีมาตั้งแต่เมื่อใด แต่สันนิฐานว่าสร้างมาพร้อมๆ กับการสร้างพระบรมธาตุเจดีย์ ช่วงปี พ.ศ.1475-1482 ซึ่งสมัยนั้นเมืองพัทลุงยังตั้งอยู่ที่บ้านอาพัด หรือบริเวณวัดพระบรมธาตุเจดีย์เขียนบางแก้วในปัจจุบัน พระยากรุงทองผู้เป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นยังให้มีการถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วย และเชื่อว่าน้ำที่ใช้ประกอบพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เป็นน้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้  
 

ที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 2 นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทำพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ จากบ่อน้ำศักดิสิทธิ์วัดดอนศาลา ตั้งอยู่เลขที่ 14 หมู่ที่ 8 ตำบลมะกอกเหนือ อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เป็นสระน้ำโบราณที่ไม่มีการบันทึกประวัติที่แน่ชัดนัก แต่จากประวัติการสร้างศาลาการเปรียญหลังเก่าของวัด เมื่อปี 2426 หรือเมื่อ 135 ปีที่แล้ว ปรากฏมีสระน้ำแห่งนี้อยู่ก่อนแล้ว และเป็นแหล่งน้ำที่ใช้อุปโภคบริโภคของประชาชนในละแวกใกล้เคียง และการใช้สอยของพระภิกษุภายในวัดดอนศาลามาก่อน ช่วงที่พระครูสิทธิยาภิรัต หรือหลวงพ่อเอียด ปทุมสโร พระเกจิอาจารย์ที่ชาวพัทลุงเคารพเลื่อมใสมากที่สุดรูปหนึ่ง ซึ่งเป็นศิษย์เอกของพระอาจารย์ทองเฒ่า หรือพระครูสังฆวิจารณ์ ฉัตทันต์บรรพต แห่งสำนักวัดเขาอ้อ ได้ถูกส่งมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอนศาลา พระครูสิทธิยาภิรัต ได้ใช้น้ำในสระดังกล่าวในการทำน้ำพระพุทธมนต์ ชาวบ้านจึงมีความเชื่อว่าน้ำในสระแห่งนี้เป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาเมื่อมีการสร้างอุโบสถของวัด พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงพระมหากรุณาธิคุณพระราชทาน แผ่นศิลาฤกษ์ และทรงมีพระบรมราชานุญาตให้นำพระปรมาภิไธย ภปร.ประดิษฐานที่หน้าบัน และซุ้มประตูหน้าต่าง อุโบสถทุกบาน พร้อมมีพระบรมราโชวาทสลักที่หน้าบันอุโบสถว่า “คนชาติไทยจะรักษาความเป็นไทยอยู่ได้ ด้วยมีสติสำนึกอยู่ในความสามัคคี”
 

และเพราะเหตุที่อุโบสถ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของสระน้ำพอดี เมื่อยืนมองจากด้านตะวันออกของสระน้ำ จะเห็นอุโบสถปรากฏในสระน้ำเป็นรูปสมมาตร สวยงาม ชาวบ้านมีความเคารพสักการะว่าเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์เพราะมีเงาของอุโบสถอยู่ในน้ำ และนิยมนำน้ำในสระไปทำน้ำพระพุทธมนต์ ประพรมสิ่งต่างๆ เพื่อเป็นสิริมงคลมาจนถึงปัจจุบัน
 

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งที่ 3 นายศิลป์ชัย รามณีย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ทำพิธีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ จาก ถ้ำน้ำศักดิ์สิทธิ์บนหุบเขาชัยบุรี อยู่ในพื้นที่เขตวนอุทยานเมืองเก่าชัยบุรี หมู่ที่ 1 ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง สถานที่อยู่ของถ้ำน้ำอยู่สูงจากพื้นดินประมาณ 215 เมตร ทางเข้ามีช่องขนาดเล็ก ต้องลอดผ่านทีละคน ด้านในเป็นห้องโถง 3 ชั้น มืดสนิท ถ้ำน้ำอยู่ในโถงที่ 2 ต้องใช้บันใดปีนขึ้นไปประมาณ 5 เมตร ถึงปากถ้ำ ซึ่งเป็นที่รองรับน้ำที่หยดลงมาจากเพดาน มีความใสบริสุทธิ์ โถงที่ 3 อยู่ถัดจากถ้ำน้ำเข้าไป เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม
 

ชาวบ้านมีความเชื่อว่า บริเวณภูเขาแห่งนี้เป็นที่อยู่ของ “คนธรรพ์” ซึ่งเป็นเทวดาจำพวกหนึ่ง มาแต่โบราณ และถ้ำน้ำแห่งนี้มีน้ำบริสุทธิ์ เป็นที่ห่างไกลจากการรบกวนต่างๆ เป็นสถานที่ของเหล่าคนธรรพ์ เป็นผู้ถือวาจาสัตย์ มีศีล และสันโดษ ประกอบกับบริเวณดังกล่าว อยู่ในเขตปริมณฑล ของเมืองเก่าชัยบุรี ซึ่งเป็นชัยภูมิสำคัญของเมืองพัทลุง ที่สามารถต่อต้านการรุกร้านของพวกโจรสลัดได้เป็นอย่างดี ชาวบ้านจึงถือว่าบริเวณแห่งนี้เป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์จนถึงทุกวันนี้
   

ซึ่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 3 แห่งนั้นได้นำขึ้นรถบุษบก นำเก็บไว้ ณ.อุโบสด วัดคูหาสวรรค์ พระอารามหลวง เพื่อประกอบพิธีทำน้ำอภิเษก ในวันที่ 8 เมษายน และประกอบพิธีสมโภชทำน้ำอภิเษก ในวันที่ 9 เมษายน 2562 ที่จะถึงนี้ เพื่อทำน้ำอภิเษกพระพุทธมนต์ทูลเกล้าถวายพระเจ้าอยู่หัวในการประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ต่อไป

หน้าแรก » ภูมิภาค