นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (13 เม.ย.62) เวลา 17.00 น. นายวิเชียร  จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดฯ ส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมกับพี่น้องประชาชนชาวจ.นครราชสีมากว่าหมื่นคนพร้อมใจกันทำกิจกรรมในเทศกาลสงกรานต์โอกาสวารดิถีปีใหม่ไทย จึงได้อัญเชิญพระคันธารราษฎร์ หรือ พระปางขอฝน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สำคัญประจำ จ.นครราชสีมาอายุกว่า 300 ปี จากพระวิหารหลวง(อุโบสถ) วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร พระอารามหลวง เคลื่อนขบวนลานไปยังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(คุณย่าโม) โดยทั้งสองฝั่งถนนมีประชาชนออกมาร่วมกันจับชายผ้าและผ้าขาวที่โยงมาจากองค์พระฯเดินลอดซุ้มประตูชุมพล(ประตูเมือง) ไปยังด้านหน้าอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี(คุณย่าโม) ให้ทุกคนร่วมกันประกอบพิธีกราบไหว้สักการะ สรงน้ำ เพื่อความเป็นสิริมงคล เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีแห่พระขอฝนของจังหวัดนครราชสีมา และเป็นการเปิดงานเทศกาลสงกรานต์อย่างเป็นทางการ

 
         
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ. กล่าวว่า เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ทางจังหวัดได้อัญเชิญ “พระคันธารราษฎร์” แห่ลอดประตูชุมพล ในวันสงกรานต์ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้กราบไหว้ และสรงน้ำพระ เนื่องในวันสงกรานต์ 13-14-15 เมษายน 2562  โดยขบวนเริ่มจาก วัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร แห่องค์พระไปยังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ผ่านถนนจอมพล ถนนประจักษ์ ถนนมหาดไทย และถนนราชดำเนิน เพื่อประกอบพิธีลอดซุ้มประตูชุมพล ก่อนขบวนองค์พระคันธารราษฎร์หมุนเวียนกลับไปยังวัดพระนารายณ์มหาราชวรวิหาร ซึ่งจังหวัดฯทำเป็นประเพณีเป็นปีที่ 3 แล้ว ประเพณีแห่พระขอฝนครั้งนี้ ถือเป็นการรื้อฟื้นประเพณี วัฒนธรรมอันดีงาม ซึ่งสูญหายไปตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 ยุคสมัยเป็นเทศบาลเมืองนครราชสีมา ได้เคยอัญเชิญ หลวงพ่อพระคันธารราษฏร์ ให้ชาวโคราชได้สรงน้ำพระ จากนั้นก็ไม่ได้จัดขึ้นมาอีกเลย รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นสร้างความเชื่อทัศนคติว่า เทศกาลสงกรานต์ของไทย ไม่ได้สำคัญแค่เพียงเล่นสาดน้ำกันเท่านั้น แต่มุ่งหวังให้ประเพณีอันดีงามกลับคืนมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง แล้วสืบสานต่อไปยังคนรุ่นหลัง จัดให้เป็นงานประจำปี สืบต่อไป โดยจะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้จับชายผ้าพระเดินตามขบวนกลับไปยังวัด จากนั้นจะมีการประกอบพิธีสรงน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์ และผู้สูงอายุ มีการก่อเจดีย์ทราย ซึ่งถือเป็นประเพณีสงกรานต์ดั่งเดิม ที่ประชาชนจังหวัดนครราชสีมา ควรสืบสานและอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังต่อไป

 
สำหรับ “พระคันธารราษฎร์” มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิราบ พระหัตถ์ขวายกเสมอพระอุระในท่ากวัก พระหัตถ์ซ้ายวางหงายบนพระเพลา เป็นกิริยารับน้ำ ลักษณะพระพักตร์ค่อนข้างกลม พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ โดยลงยาสีเหมือนจริง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์บางเรียว พระกรรณยาว เกือบจดพระอังสา ขมวดพระเกศา ทำเป็นรูปก้นหอยเรียง ตลอดถึงพระเมาลี พระรัศมีทำเป็นรูปดอกบัวตูม ครองจีวรห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา มีริ้วผ้าที่ด้านหน้าองค์พระพุทธรูป รองรับด้วยฐานบัวคว่ำบัวหงาย ทั้งนี้ ประชาชนนิยมกราบไหว้พระคันธารราษฎร์ เพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งเรียกชื่ออีกอย่างว่า “พระขอฝน".

ส่วนบรรยากาศเล่นสงกรานต์ของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวเป้นไปอย่างคึกคักชุ่มฉ่ำ หลังจากที่รอคอยกันมาตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่นำรถปิคอัพ แค็ปบรรทุกถังน้ำ โอ่งน้ำบรรทุกคนเล่นสาดน้ำใส่มาจนเต็มคันรถทุกคน และเปิดนั่งท้ายกระบะ เปิดเครื่องเสียงเพลงปลุกใจกันดังสั่นหวั่นไหว โดยสองข้างทางมีประชาชนส่วนใหญ่จำนวนมากมีการตั้งเต็นท์ ตั้งถังน้ำ ต่อสายยางมาจากภายในบ้านร้านค้าใส่ถังวิ่งไล่สาดน้ำ และใช้ปืนฉีดน้ำห่ำหั่นกันเปียกดโชกเป็นที่สนุกสนาน รวมทั้งมีการตั้งเต็นท์ขายอาหาร ขายแป้ง ขายลูกชิ้นทอด ไก่ทอด ข้าวไข่เจียว ไส้กรอกอีสานจำนวนมากแน่นทุกถนนทุกเส้นทาง โดยเฉพาะถนนข้ามต้ม (ถอนจอมสุรางค์ยาตร) ซึ่งเป็นถนนที่มีร้านขายข้าวต้มรอบดึก ระยะทาง 500 เมตรแน่นขนัด และถนนโพธิ์กลาง , ถนนสุรนารี , ถนนอัษฎาง , ถนนราชดำเนิน เป็นต้น