วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 16:01 น.

ภูมิภาค

ผู้ปกครองนร.โรงเรียนบ้านท่าใหม่สุดปลื้ม ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลาถูกไล่ออกขณะที่อาหารกลางวันถูกหลักโภชนาการ

วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562, 19.38 น.

                

                 

เปิดเรียนวันที่ 2  ที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานีสุดคึกคักเมื่อได้ผอ.โรงเรียนคนใหม่จัดอาหารวันละ 4,680 บาทให้กับเด็กนักเรียนจำนวน 234 คนครบ 5 หมู่ ในขณะที่ผู้ปกครองหลายคนบอกพอใจมติไล่ออก ผอ.สมเชาว์ เคยคิดเตรียมย้ายลูกไปเรียนที่อื่นหากผอ.สมเชาว์ยังเป็น ผอ.

 


                                   

จากกรณีโลกออนไลน์เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง จนกลายเป็นข่าวดังเมื่อเดือน มิ.ย. 2561 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่แฟนเพจ@ชมรมstrong-จิตพอเพียงต้านทุจริต จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์คลิปเด็กนักโรงเรียนชั้นอนุบาล โรงเรียนบ้านท่าใหม่  อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่เด็กๆกำลังทานอาหารกลางวันที่ทางโรงเรียนจัดให้ แต่กลับปรากฎว่าในจานมีเพียงเส้นขนมจีนเปล่าคลุกกับน้ำปลา และไม่มีอาหารอื่นใด  โดยภายหลังจากที่มีการโพสต์คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกไปแล้ว โซเซียลได้ประนามการกระทำของโรงเรียนอย่างรุนแรง จนนำไปสู่การตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้เวลาตรวจสอบร่วม 1 ปีเต็มพบมีมูลความจริง คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี (คศจ.) ซึ่งมี  นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นประธาน ได้มีมติไล่ออก นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ในความผิด 6 ข้อหา มาตั้งแต่เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2561 หรือ นับแต่วันที่มีคำสั่งออกจากราชการก่อน โดยขณะนี้ คศจ.อยู่ระหว่างส่งผลวินิจฉัยและมติ การสอบสวนวินัยร้ายแรงไปสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)  นายสมเชาว์ มีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับคำสั่ง

 


 

ในส่วนด้านมูลความผิดของ นายสมเชาว์ ที่คณะกรรมการศึกษาจังหวัดสุราษฎร์ธานีแต่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย ทั้งสิ้น 10 ประเด็น เป็นประเด็นวินัยร้ายแรง 5 เรื่อง ประกอบด้วย 1.การทุจริตอาหารกลางวัน 2.การจัดซื้อจัดจ้างระบบไฟฟ้า 3.การขายผลผลิตปาล์มน้ำมันของโรงเรียน 4.อนุญาตให้ขายน้ำอัดลมในโรงเรียน และ 5.โครงการจัดซื้อจัดจ้างก่อสร้างถนนคอนกรีตภายในบริเวณโรงเรียน และวินัยไม่ร้ายแรง 1 เรื่อง คือโครงการก่อสร้างอาคารที่ดำเนินการเปลี่ยนวัสดุบางรายการโดยไม่ชี้แจงข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งผิดระเบียบการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนอีก 4 เรื่อง เช่น การเลี้ยงปลาดุก การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ การปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักครู และซ่อมแซมระบบไฟฟ้าไม่เข้าข่ายความผิดวินัย
 


หลังจากมีมติไล่ออก ผอ.สมเชาว์ บรรยากาศที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ซึ่งเปิดเทอมมาเป็นวันที่ 2 วันนี้ ( 17 พ.ค. 62 )บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคึกโดยมีผู้ปกครองนักเรียนจำนวนมากยังคงเดินทางมาเฝ้าติดตามดูอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนโดยเฉพาะเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 1

 


ขณะที่นายณัฐพงศ์  แสงอำพร ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ที่เดินทางเข้ามารับตำแหน่ง ผอ.คนใหม่ กล่าวว่า สถิติเดิมก่อนเกิดเหตุขนมจีนคลุกน้ำปลามีเด็กนักเรียนตั้งแต่อนุบาล 1 ถึงชั้น ป.6อยู่จำนวนทั้งสิ้น 263 คน เมื่อเปิดเทอมใหม่มีเด็กย้ายออกไปเรียนที่อื่นจำนวนหนึ่งแต่ก็มีเด็กนักเรียนเข้ามาใหม่ทดแทนของเดิมซึ่งขณะนี้มีเด็กนักเรียนอยู่จำนวนทั้งสิ้น 234 คน  เดิมมีครูอยู่จำนวน  13 คน หลังจากเกิดเหตุครูได้ย้ายออกจากพื้นที่ไปจำนวน 3 คนได้มาทดแทน 1 คน  ในส่วนของอาหารกลางวันทางโรงเรียนได้จัดงบประมาณค่าอาหารวันละ 4,680 บาทหรือคนละ 20 บาทตามงบสนับสนุน โดยใช้ระบบจ้างเหมาและตั้งคณะกรรมการขึ้นตรวจสอบ ในสัญญาว่าจ้างจะต้องมีอาหารจำนวน 2 อย่างและผลไม้ 1 อย่าง ซึ่งอาหารในวันนี้มีต้มกะทิข่าไก่สำหรับเด็กอนุบาลและแกงส้มปลานิลใส่สับปะรดที่เด็กโตกินได้ ส่วนผลไม้เป็นแตงโม

 


ต่อข้อถามที่ว่าหนักใจหรือไม่กับการมารับตำแหน่งที่นี่ ซึ่ง ผอ.คนใหม่บอกว่าไม่รู้สึกหนักใจอะไร  และตอนนี้โรงเรียนยังขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่จะต้องพัฒนาอีกมาก ตนจะพยายามประชุมพูดคุยกับชุมชนให้เข้าใจและเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาต่อไป

 


ขณะที่นายสราวุธ  ขุนจันทร์ อายุ 27 ปี ชาวบ้านในพื้นที่และเป็นผู้ปกครองเด็กนักเรียนอนุบาล 1  กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าช่วงมีข่าวขนมจีนคลุกน้ำปลา ตนเองรู้สึกไม่สบายใจและเตรียมนำลูกชายวัย 4 ขวบออกไปสมัครเรียนที่อื่น แต่หลังจากมีมติไล่ ผอ.สมเชาว์ ออกจากราชการทำให้ความรู้สึกดีขึ้นมากและเชื่อว่าต่อไปโรงเรียนทุกอย่างจะต้องพัฒนาทั้งอาหารการกินและการเรียนการสอนไปในทิศทางที่ดีขึ้น

หน้าแรก » ภูมิภาค