ภูมิภาค
เปิดข้อกล่าวหา”หน่อมแน้ม” อดีตคณบดี วท.พยาบาลฯนครพนม!
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

เปิดข้อกล่าวหา”หน่อมแน้ม”
อดีตคณบดี วท.พยาบาลฯนครพนม!
ปัญหาความขัดแย้งภายในมหาวิทยาลัยนครพนม(ม.นพ.) เริ่มเป็นควันกรุ่นๆตั้งแต่ รศ.ดร.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ ครั้งดำรงตำแหน่งอธิการบดี ม.นพ. สมัยที่ 2 (ส.ค.2557) ถูกบุคคลในสภา ม.นพ.(บางคน) ใช้อำนาจโดยมิชอบ กลั่นแกล้งทำให้มีประวัติด่างพร้อย จึงต่อสู้ทางคดีจนสามารถทวงคืนศักดิ์ศรีอธิการบดีกลับคืนมา ในช่วงเดือน ม.ค.2558 ต่อจากนั้นก็มีอย่างน้อย 3 คน รักษาการตำแหน่งอธิการบดีฯ
กระทั่งถึงปี 2560 รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯเป็นอธิการบดี เมื่อวันที่ 8 ม.ค.60 แต่หนทางการบริหารไม่ราบรื่น เพราะถูกบุคคลที่จ้องจะตักตวงผลประโยชน์จาก ม.นพ. สั่งซ้ายหันขวาหันตลอดเวลา จนอดรนทนไม่ไหวจึงประกาศลาออกจากอธิการบดี เมื่อวันที่ 19 เม.ย.60 มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าถูกบีบจากผู้มีอำนาจบางคน ถึงแม้เจ้าตัวจะยืนยันว่า เป็นความพอใจส่วนตัว ที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ก็ตาม
หลังจากนั้น ม.นพ. ก็มีรักษาการตำแหน่งอธิการบดีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน สรุปตั้งแต่ ม.นพ. ก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปลายปี 2548 มีผู้มานั่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารแล้ว 11 คน ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นอธิการบดี มีเพียง2 ท่าน คือ รศ.ดร.สุวิทย์ เลาหศิริวงศ์ และ รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ เท่านั้น ที่เหลืออีก 9 คน ล้วนรักษาราชการการแทนฯทั้งสิ้น
ส่วนรายชื่อผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี ม.นพ. หลังจาก รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ อธิการฯ ยื่นใบลาออกและมีผลบังคับใช้วันที่ 2 พ.ค.60 มี 1.ผศ.ดร.จินดา งามสุทธิ(2 พ.ค.60-14 พ.ค.60) 2.ผศ.ดร.สังคม ภูมิพันธุ์ (15 พ.ค.60-11 มี.ค.61) และ 3.ผศ.ดร.พัฒนพงษ์ วันจันทึก (12 มี.ค.61-ปัจจุบัน)
ขณะที่คณาจารย์แบ่งฝักแบ่งฝ่ายเป็น 2-3 ขั้ว ทำให้การเรียนการสอนนักศึกษาด้อยคุณภาพ เพราะคณาจารย์ผู้สอนคอยเอียงหูฟังว่าส่วนบน จะให้เดินไปในทิศทางใด ผู้ใดแข็งข้อก็จะถูกเล่นงานทั้งทางตรงและทางอ้อม จึงเกิดการฟ้องร้องกันไปมาอย่างที่ไม่เคยปรากฎที่ไหนมาก่อน
ล่าสุด ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร คณบดี วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำนักศึกษาแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ ขับไล่ผู้มีอำนาจในขณะนั้น ลาออกจากตำแหน่ง เพราะบริหารงานขาดธรรมาภิบาล อีกทั้งแทรกแซงการทำงานของฝ่ายบริหาร เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย.2560 บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม
เริ่มปฐมบทแรกที่ถูกเล่นงาน ด้วยการมีคำสั่งให้พักราชการ กรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน ในเรื่องการก่อความไม่สงบฯ ทำให้ ม.นพ.เสื่อมเสียชื่อเสียง ตามข้อบังคับ 14 มหาวิทยาลัยนครพนม ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยต่อผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหาร พ.ศ.2558 และยังอาศัยอำนาจตามความอีกหลายมาตราใน พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนครพนม พร้อมกับอ้างมติสภามหาวิทยาลัยฯ ในการประชุมครั้งที่ 12/2560 วันที่ 14 ต.ค.60 ให้ ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ พักงาน และสอบสวนทางวินัย เป็นเวลา 90 วัน โดยงดจ่ายเงินต่างๆ จนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ
ครั้นเมื่อกระบวนการสอบสวนทางวินัยใกล้ครบ 90 วัน กลุ่มผู้มีอำนาจในขณะนั้น หาหนทางกลั่นแกล้งต่างๆนาๆ ออกคำสั่งสภามหาวิทยาลัยนครพนมที่ 001/2561 ขยายเวลาพักงานไปอีก 60 วัน ต่อมาคราวประชุมสภามหาวิทยาลัยนครพนมครั้งที่ 4/2561 ผู้มีอำนาจคนเดิมสั่งขยายเวลาการพักงานต่อไปอีก 60 วัน
กระทั่งวันที่ 23 ก.ค.61 มีคำสั่งมหาวิทยาลัยฯที่ 1817/2561 ให้ ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ กลับเข้ารับราชการ โดยอ้างว่าการออกคำสั่งพักราชการดังกล่าว เป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อนในการออกคำสั่ง จึงยกเลิกให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม เมื่อไปรายงานตัวกลับถูกลูกน้องผู้มีอำนาจอย่างน้อย 2 คน ข่มขู่ให้เขียนใบลาออกจากตำแหน่งคณบดี วิทยาลัยพยาบาลฯ โดยเจตนาของบุคคลทั้งสอง เพื่อต้องการเริ่มกระบวนการสรรหาคณบดีคนใหม่ ที่ไม่ใช่อื่นไกล เป็นเด็กในคาถาของคนกลุ่มนี้ ที่แต่งตัวรอการสรรหาอย่างเป็นทางการ
ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ ไม่ยอมทำตามคำขู่ จึงถูกกลั่นแกล้งสารพัด โดยสั่งผู้รักษาการแทนฯ ไม่ส่งมอบงานตำแหน่งคณบดีคืน ซึ่งผู้รักษาการแทนฯก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งนั้น หากขืนไม่ทำตามอาจจะถูกเล่นงานเหมือนรายอื่นๆ
ซึ่งการถูกปลดล็อกจากการพักงาน หาได้เป็นไปตามระเบียบฯว่าของผู้บริหาร ม.นพ. พ.ศ.2557 กลับเพิ่มการกลั่นแกล้งหนักขึ้น ใช้อำนาจสั่งให้ไปพบตามที่ต้องการ ส่วนมากจะเจอแต่ลิ่วล้อ บีบบังคับให้ลาออกจากคณบดีสถานเดียว หรือหน้าห้องจะบอกว่าผู้มีอำนาจไป ตจว.บ้าง ลาป่วยบ้าง สุดท้ายการทำหน้าที่คณบดี วิทยาลัยพยาบาลฯ เป็นแค่ในนามที่ไม่มีอำนาจดำเนินการใดๆ เพราะไม่มีการส่งมอบงาน เพราะผู้มีอำนาจจงใจกลั่นแกล้ง
ปรากฏว่าจากการที่ ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ ยืนกรานที่ไม่ยอมลาออกตามคำสั่ง จึงเจอคำสั่งพักราชการเป็นครั้งที่สอง ลงวันที่ 6 ก.ย.61ที่ 2258/2561 คราวนี้ยัดเยียดข้อกล่าวหาหนักกว่าครั้งแรก ว่า ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ผิดวินัยร้ายแรง ในเรื่องการนำเอาทรัพย์สินของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว
โดยกล่าวหา ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ ได้นำเอาเครื่องออกกำลังกาย(จักรยานเอนปั่น) ไปใช้ที่บ้านพักคณบดี เป็นการใช้เครื่องออกกำลังกายผิดวัตถุประสงค์ และเป็นการนำเอาทรัพย์สินของทางราชการไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว จึงเข้าข่ายความผิดวินัยร้ายแรงฯลฯ
ต่อมา ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯผู้ถูกกล่าวหา ได้มีหนังสือชี้แจงลงวันที่ 15 ส.ค.61 ถึงประธานคณะกรรมการการสอบสวนหาข้อเท็จจริง(ตามคำสั่งมหาวิทยาลัยนครพนมที่ 1941/2561 ลงวันที่ 7 ส.ค.61) ใจความว่า ด้วยในขณะนั้น(ปีงบประมาณ 2559) วิทยาลัยฯ ได้มีนโยบายในการสร้างเสริมสุขภาพของนักศึกษาฯ จึงจัดให้มีการจัดซื้อครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกายหลายชนิด ซึ่งเครื่องออกกำลังกายได้ตั้งไว้บริการนักศึกษาและบุคลากร ได้แก่ ห้องออกกำลังกาย หอแก้วเจ้าจอม จำนวน 1 จุด ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา และห้องรับรองผู้บริหาร ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ อีกจำนวน 1 ชุด
กระทั่งเดือน มี.ค.60 ผู้ถูกกล่าวหาได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหารทรัพยากรการเรียนรู้สู่องค์กรสุขภาวะ โดยได้รับคำสั่งด้วยวาจาจากผู้บังคับบัญชาให้ขนย้ายเครื่องออกกำลังกาย(จักรยานเอนปั่น) จำนวน 1 เครื่อง จากเดิมตั้งอยู่ห้องรับรองผู้บริหาร ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ ไปตั้งไว้ที่บ้านพักประจำตำแหน่ง ซึ่งได้อธิบายว่าเป็นการขอยืมไปใช้ เนื่องจากชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ นั้น ในยามวิกาลจะไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมา ประกอบกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำแหน่งผู้บริหาร จำต้องประชุมเพื่อรับมอบและมอบนโยบายทั้งในส่วนภายในวิทยาลัยฯ และนอกวิทยาลัย อยู่บ่อยครั้ง กว่าจะเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่มักจะเป็นเวลาพลบค่ำประจำ
เพื่อลดการสุ่มเสี่ยง จึงนำเครื่องออกกำลังกายไปไว้ที่บ้านพัก ภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาด้วยวาจา ประกอบกับตัวผู้ถูกกล่าวหามีความเข้าใจว่า การเคลื่อนย้ายดังกล่าว ไม่ได้ย้ายไปใช้ในการอื่นใดที่ทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย หากแต่เป็นการเคลื่อนย้ายเพื่อให้เกิดความปลอดภัยทั้งทางกายและทางจิตใจ และไม่คิดว่าผู้มีอำนาจจะใช้เรื่องดังกล่าว ตั้งเป็นข้อกล่าวหาถึงขั้นสั่งพักราชการเพราะผิดวินัยร้ายแรง ซึ่ง ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ การยืมครุภัณฑ์เครื่องออกกำลังกาย ไม่ได้ทำเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ก็ได้ยืมกับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบ เพียงแต่การดำเนินการไม่ครบถ้วนตามข้อกำหนดฯเท่านั้น
หลังจากโดนกลั่นแกล้วอย่างไม่เป็นธรรม ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ จึงมีหนังสือร้องทุกข์กรณีถูกสั่งให้พักราชการต่อคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์และร้องทุกข์(ก.อ.ร.) หลังเคยยื่นเรื่องร้องทุกข์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ร้องทุกข์และพิทักษ์ระบบคุณธรรมประจำมหาวิทยาลัยนครพนม (ก.อ.พ.ร.) เมื่อวันที่ 11 ก.ย.61 แต่ไม่มีการเสนอสภามหาวิทยาลัยนครพนมพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน จึงจำต้องยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ ก.อ.ร. ตามาตรา 63 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 แก้ไขเพิ่มเติมโดย พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา(ฉบับที่ 3) พ.ศ.2559
กระทั่งวันที่ 21 พ.ค.62 ก.อ.ร. มีคำพิจารณาออกมาว่า คำสั่งพักราชการ ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร กรณีนำเครื่องออกกำลังกายไปใช้ที่บ้านพักประจำตำแหน่งนั้น ไม่ได้เป็นประเด็นซับซ้อนหรือยุ่งยาก อันจะต้องใช้ระยะเวลานานในการพิจารณา การที่อธิการบดี ม.นพ. มีคำสั่งพักราชการตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.61 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลานานกว่า 200 วัน อันมีผลทำให้ผู้ร้องเสียสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่พึงมีพึงได้ กรณีจึงเป็นการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมกับผู้ร้องทุกข์ ในการนี้ ก.อ.ร.จึงให้ ม.นพ.เพิกถอนคำสั่งพักราชการ ฯลฯ จึงทำให้ ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ ได้กลับมารับราชการใน วิทยาลัยพยาบาลฯ อีกครั้ง โดยได้ไปรายงานตัวเมื่อต้นสัปดาห์นี้แล้ว แต่ด้วยตำแหน่งคณบดีฯได้ครบวาระลง และมีผู้รักษาราชการแทนฯยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงแค่ได้มาเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาพยาบาลธรรมดาคนหนึ่ง
และเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯ ได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์ต่อ ศ.สุนทร บุญญาธิการ นายกสภามหาวิทยาลัยนครพนม คนใหม่ ที่ถูกกระทำอย่างไมเป็นธรรมจากผู้มีอำนาจ โดยในมือถือภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 ซึ่ง ผศ.ดร.เพ็ญศิริฯได้กล่าวว่าหลังยื่นหนังสือแล้วยังไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก ก็จำเป็นต้องพึ่งพระบารมีในหลวงรัชกาลปัจจุบัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 6 ก.พ.62 ศาลปกครองอุดรธานี วินิจฉัยว่า กรณีมหาวิทยาลัยนครพนม สั่งพักงานในตำแหน่งคณบดีวิทยาลัยพยาบาลถึง 3 ครั้ง โดยมีสาเหตุมาจากปมขัดแย้ง กรณีมีนักศึกษา รวมถึงคณะอาจารย์ของมหาวิทยาลัยบางส่วน มีการเคลื่อนไหวคัดค้านการลาออกของ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยนครพนม ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิด กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลัง และทำให้องค์กรวุ่นวาย เสื่อมเสีย ทั้งที่ผู้ถูกกล่าวหาเคยยืนยัน ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนเกิดปัญหาปานปลาย ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ขั้นสั่งพักงานไปจนถึงพักราชการ ถึงแม้ล่าสุดศาลปกครองอุดรธานี จะมีคำสั่งเพิกถอนการพักงาน แต่ทางสภามหาวิทยาลัยนครพนม ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครองสูงสุดแล้ว
ขณะที่ทางด้านศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 4 ประทับรับฟ้องกรณี ผศ.ดร.เพ็ญศิริ ดำรงภคภากร เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง ผู้บริหาร ม.นพ. จำนวน 2 คน ในข้อหาความผิดเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยคดีอยู่ในระหว่างสืบพยานทั้งสองฝ่าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ภาคเหนือ-อีสาน-ตอ.-ใต้(ฝั่งตะวันตก)-กทม.มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ มีฝนตกหนักบางแห่ง 8 ก.ค. 2568
- แค้นถูกยิง ฮ.ตก! ทหารเมียนมาส่งเครื่องบินรบถล่มค่ายกะเหรี่ยง เจ็บนำส่ง รพ.ฝั่งไทยเกือบครึ่งร้อย 8 ก.ค. 2568
- แผ่นดินไหวเขย่าลำปาง 3 ริกเตอร์ หลายพื้นที่รู้สึกได้ 8 ก.ค. 2568
- เชียงราย อาคารถล่มทับคนงานเจ็บ 6 ติดอยู่ในอาคาร 1 เร่งช่วยเหลือ 8 ก.ค. 2568
- พระครูปริยัติธรรมมานุศาสก์ วัดศรีนวล ขอนแก่น รับพระราชทานสมณศักดิ์ เทียบเจ้าคณะอำเภอชั้นพิเศษ 8 ก.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
โค้งเฮี้ยนพลับพลาชัย โผล่ภาพเด็กโบกรถ ชาวบ้านเชื่อทางผ่านผี 22:16 น.
- รวบหนุ่มขนยาบ้า 1.6 แสนเม็ด! 21:55 น.
- พะเยา เทศบาลบ้านต๋อมสืบสานศรัทธา! หล่อเทียนพรรษาส่งเสริมพระพุทธศาสนา-วัฒนธรรมท้องถิ่น 21:23 น.
- 2 หนุ่มพ้นคุกไม่เข็ด ตระเวนลักทรัพย์ซ้ำ ตร.ตามรวบได้อีกรอบ 21:11 น.
- เจ้าคณะอำเภอหนองมะโมง ถวายเทียนพรรษาเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวง ร.10 20:35 น.