นายก อบจ.สกลนครแจง
หอนาฬิกา7ชั่วโคตรเสร็จทันพ.ย.นี้

นาฬิกาเมืองสกลนครสร้างตั้งแต่ปี 57 เกิดปัญหาจนต้องยกเลิกสัญญาจ้างผู้รับเหมา ล่าสุดแก้ไขแล้วคาดจะแล้วเสร็จภายในพฤศจิกายน 62 นี้ ย้ำยึดโยงผลประโยชน์ของราชการและระเบียบอย่างเคร่งครัด

วันที่ 9 กรกฎาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภายหลังบริเวณสี่แยกหอนาฬิกาเก่า  ที่ตั้งอยู่ถนนสุขเกษมหรือสี่แยกนาแก ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร ได้มีการนำหอนาฬิกาออกจากบริเวณดังกล่าวเนื่องจากชำรุด และไม่มีหอนาฬิกามาหลายปี ต่อมา อบจ.สกลนคร ได้ดำเนินการก่อสร้างหอนาฬิกาขึ้นใหม่ ในปี 2557 ปรากฏว่าเกิดปัญหาของผู้รับเหมาทำงานไม่แล้วเสร็จ  จนมีการนำไวนิลซึ่งเป็นรูปภาพสัญลักษณ์เมืองสกลนคร  มาห่อหุ้มโครงสร้างหอนาฬิกาเอาไว้ เกิดข้อสงสัยต่อชาวสกลนคร เหตุใดถึงปล่อยร้างเป็นหอนาฬิกาไวนิล เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการดำเนินการของ อบจ.สกลนคร เป็นอย่างมาก

นายไชยมงคล ชัยรบ นายก อบจ.สกลนคร เปิดเผยว่า โครงการเดิม อบจ.สกลนคร ประกาศประมูลจ้างก่อสร้างหอนาฬิกาในเขตเทศบาลสกลนคร ตามสัญญาจ้างเลขที่ 875 / 2557 ลงวันที่ 24 เมษายน 2557 โดย หจก.รายหนึ่งเป็นผู้รับจ้าง ตั้งงบประมาณตั้งไว้ 4,979,000 บาท สิ้นสุดสัญญา วันที่ 19 เมษายน 2558 กำหนด 360 วัน ปรากฎว่าผู้รับเหมาทำงานไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และผู้รับจ้างกล่าวอ้างว่าไม่สามารถดำเนินการได้ทันทีในกำหนดระยะเวลาตามสัญญา  เนื่องจาก อบจ.สกลนคร ติดขัดในเรื่องการส่งมอบพื้นที่ล่าช้าและต่อมา อบจ.สกลนคร ได้ขยายระยะเวลาก่อสร้างให้ผู้รับจ้างออกไปอีก 57 วัน แต่ก็ไม่ปรากฏว่าผู้รับจ้างไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด

ซึ่ง อบจ.สกลนคร ไม่ได้เพิกเฉย ได้ติดตามเร่งรัดเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างรีบดำเนินการ แต่ผู้รับจ้างก็ยังคงทิ้งงานเรื่อยมาจนงานไม่แล้วเสร็จ คิดเป็นเปอร์เซนต์ผลงานก่อสร้างรวมตามสัญญาเพียงร้อยละ 11.817 อบจ.สกลนคร จึงได้บอกเลิกสัญญาจ้างกับ หจก.ผู้รับจ้าง ตามหนังสือที่ สน 51009 / 5455 ลงวันที่ 7 กันยายน 2558  อบจ.สกลนคร ได้ทำหนังสือถึง ผวจ.สกลนครเพื่อพิจารณาสั่งให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงานตามระเบียบพัสดุเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2559 ผู้รับจ้างไม่พอใจผลการพิจารณาของ อบจ.สกลนคร จึงได้ยื่นฟ้อง อบจ.สกลนคร ต่อศาลจังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2558 ในข้อหาหรือความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด  ต่อมาวันที่ 7 กรกฎาคม 2559 ศาลจังหวัดสกลนครได้มีคำพิพากษาคดีดังกล่าว โดยยกคำฟ้องของโจทก์ผู้รับจ้างว่า อบจ.สกลนคร ปฎิบัติหน้าที่ตามระเบียบขั้นตอนของกฎหมายถูกต้องแล้ว  ไม่มีเจตนากันแกล้งและมิได้เป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ  หรือกระทำไปเพื่อให้ผู้รับจ้าง มีความเสียหายโดยเจตนาทุจริตแต่อย่างใด คำฟ้องจึงไม่มีมูลยกฟ้องตามคำพิพากษาศาลจังหวัดสกลนคร คดีหมายเลขดำที่ 3132 / 2558 คดีหมายเลขแดงที่ 1662 / 2559 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2559

นายชัยมงคล ไชยรบ กล่าวอีกว่า ปีงบประมาณ 2562 อบจ.สกลนคร  ได้ตั้งงบประมาณเพื่อดำเนินการก่อสร้างตามโครงการก่อสร้างหอนาฬิกา  โดย อบจ.สกลนครได้ประกาศประกวดราคาจ้างก่อสร้างหอนาฬิกาด้วยวิธีอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)ปรากฏว่าผู้รับจ้างที่เสนอราคาต่ำสุดและมีสิทธิ์เข้าทำสัญญากับ อบจ.สกลนคร คือ หจก.เอส ซี ซุปเปอร์คอนสตรัคชั่น ในวงเงินงบประมาณ 3,720,000 บาท สัญญาจ้าง  สิ้นสุดวันที่ 14 พฤศจิกายน 2562 ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ  ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งสาเหตุของการก่อสร้างที่ต้องล่าช้าเนื่องจากในการก่อสร้าง ต้องทำการรื้อฐานรากเดิมที่ไม่สามารถรับน้ำหนักโครงสร้างใหม่ได้ และทำการเจาะเสาเข็มใหม่ ซึ่งต้องมีการทดสอบการรับน้ำหนักเสาเข็มใหม่ ที่ต้องมีอายุการบ่มคอนกรีตให้ครบ 28 วัน ก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้

“และในปัจจุบันปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการก่อสร้างคือ เครื่องจักรชำรุด และมีฝนตกหนักทำให้ท่วมขังงานฐานราก แต่ถึงอย่างไรก็ตามเรื่องงานก่อสร้างก็ยังอยู่ในห้วงระยะเวลางวดที่1 กำหนดไว้ในสัญญาอยู่ ฝากถึงพี่น้องชาวสกลนครว่า เราควบคุมและพยายามเร่งรัดผู้รับจ้างให้ดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญา หากผู้รับจ้างไม่สามารถดำเนินการแล้วเสร็จตามสัญญา ก็มีระเบียบในการปรับในระเบียบก็มีในเรื่องการปรับเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ถึงจะยกเลิกสัญญาได้ ดังนั้นในเรื่องนี้ต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขอยืนยันว่าอบจ.สกลนครได้ยึดโยงอยู่กับผลประโยชน์ทางราชการและปฏิบัติตามระเบียบพัสดุและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดทุกประการ.” นายก อบจ.สกลนคร กล่าว