ข้าวเหนียวแพงกระทบคนทำข้าวหลาม
ครวญรายได้หายไปวันละกว่า300บาท

ข้าวเหนียวแพง กระทบอาชีพ คนทำข้าวหลามท่าศิลาแหล่งใหญ่ เมืองช้าง ครวญรายได้หายไปวันละกว่า 300 บาท ยอมแบกภาระแต่ไม่เพิ่มราคาขายขณะที่หลายคนปิดร้านหนีหลายร้าน

สุรินทร์-วันนี้ (27 ส.ค. 62) ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ รายงานว่า หลังจากสถานการณ์ราคาข้าวเปลือกเหนียวขึ้นราคาสูงเป็นประวัติกาล ส่งผลให้ราคาข้าวสารเหนียวสูงขึ้นตาม ที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านท่าศิลา ม.7 ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ทำข้าวหลามจำหน่าย แห่งใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดของ จ.สุรินทร์ โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างนำข้าวหลามออกมาวางจำหน่าย อยู่ตามเพิงร้านค้าสองข้างทาง ยาวตลอดแนวถนนสายหลักสุรินทร์-ท่าตูม มากกว่า 50 ร้านค้า โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้จะเป็นข้าวสารเหนียว ที่กำลังขึ้นราคา เพื่อสำรวจว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาข้าวสารเหนียวดังกล่าวหรือไม่

และจากการลงพื้นที่สอบถามจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายข้าวหลามสองข้างทางดังกล่าว ทราบว่า ยังคงมีการจำหน่ายข้าวหลามในราคาเดิมอยู่ คือ 5 กระบอก 100 บาท, 4 กระบอก 100 บาท และ 3 กระบอก 100 บาท แล้วแต่ขนาดเล็กใหญ่ของกระบอก ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้าต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้ราคาข้าวสารเหนียวตามร้านค้าขายปลีกจะขึ้นราคาเป็น 40-45 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมกิโลกรัมละ 32-35 บาท แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงไม่ขึ้นราคาจำหน่ายข้าวหลาม แม้จะต้องแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้น ได้กำไรที่น้อยลงก็ตาม เพราะเห็นใจลูกค้า และหากจำหน่ายราคาสูงขึ้นก็ขายข้าวหลามไม่ได้อีก ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายข้าวหลามกำไรหดหายไปวันละมากกว่า 300 บาทขึ้นไป

นางวันทนีย์ สุภภูมิ อายุ 56 ปี แม่ค้าขายข้าวหลาม ชื่อร้านทวีชัย อยู่บ้านเลขที่ 4 ม.7 บ.ท่าศิลา ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้ราคาข้าวสารเหนียวราคากิโลกรัมละ 38-40 บาท แล้วแต่ร้าน แต่ข้าวหลามไม่เพิ่มราคา ยอมกำไรน้อยลง คนซื้อก็ไม่ค่อยมีเงิน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ขายให้พออยู่ได้ มีหลายราคา 4 กระบอก 100 บาท และ 5 กระบอก 100 บาท 3 กระบอก 100 ก็มี ที่นี่ทำข้าวหลามเองไม่ได้รับมา หมู่บ้านนี้ทำขายมา 30-40 ปีแล้ว ตายายพ่อแม่พาทำมานานแล้ว เริ่มมีร้านมากขึ้น ข้าวหลามมีทั้งทำจากข้าวเหนียวดำ และข้าวเหนียวขาว ไส้ถั่วดำ ไส้มะพร้าวอ่อน ข้าวเหนียวดำราคา ก.ก.ละ 70 บาท ไม่มีปรับขึ้นราคา อยู่ราคานี้มานานแล้ว แต่ที่ขึ้นคือข้าวเหนียวขาว ขึ้นจาก 32-35 บาท เป็น 40 บาทแล้ว ต่อ ก.ก. วันหนึ่งจะใช้วันละ 4-5 กิโลกรัม นอกจากข้าวเหนียวขึ้นราคาแล้ว กระบอกไม้ไผ่ก็ขึ้นราคาพร้อมกันอีก มัดละ 25 กระบอก 100 บาท ขึ้นเป็นมัดละ 120 บาท เดือดร้อนกันถ้วนหน้า แต่จำเป็นต้องขายหารายได้ นางวันทนีย์ฯกล่าว

นางสุกัญญา ผู้มีสัตย์ แม่ค้าขายข้าวหลาม ชื่อร้านน้องฟิว อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 ม.7 บ้านท่าศิลา ต.เมืองแก อ.ท่าตูม บอกว่า ราคาข้าวเหนียวปรับขึ้นมาก กิโลกรัมละ 40 กว่าบาท จากเดิมที่ราคากิโลกรัมละ 32-35 บาท ในขณะที่ข้าวหลามที่จำหน่ายก็ราคาเหมือนเดิมจำนวน 5 อัน 100 บาท กระบอกใหญ่ก็ 3 อัน 100 บาท ลูกค้าประจำที่เคยซื้ออย่างไรก็จะซื้ออย่างนั้น หากปรับราคาขึ้นลูกค้าก็จะบอกว่าแพง ซึ่งขณะนี้มีผลกระทบแทบทุกอย่าง นอกจากข้าวเหนียวที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตแล้ว ไม้ไผ่ที่นำมาทำข้าวหลามก็ปรับราคาขึ้นเช่นกัน จากราคามัดละ 25 กระบอก 100 บาท ปรับขึ้นมัดละ 120 บาท ซึ่งต้องสั่งจากต่างจังหวัด เพราะเป็นไผ่ภูเขา รายได้ลดลงจากที่เคยขายได้วัน 5 กิโลกรัม จำนวน 1,200 บาท ก็ลดลงมาเหลือวันละ 1,000 บาท โดยเฉลี่ยจะขายได้วันละประมาณ 100 กระบอก ทำให้รายได้หายไปวันละกว่า 200-300 บาท ซึ่งข้าวหลามที่วางขายทำเองทั้งหมด แต่ไม่มีอาชีพอื่นจึงจำเป็นต้องขายข้าวหลามจุนเจือครอบครัว

สำหรับข้าวเหนียวจะซื้อที่ร้านค้าประจำ วันหนึ่งจะใช้ข้าวเหนียวทำข้าวหลามประมาณ 5 กิโลกรัม บางที่ก็จะซื้อมาเป็นถุงเลยถุงละ1,300 บาท ซึ่งเราจะเลือกเกรดที่ดีมาทำข้าวหลาม โดยจะเป็นข้าวเหนียวจากต่างจังหวัดส่วนมากมาจากทางจังหวัดยโสธร กาฬสินธุ์ เพราะเป็นข้าวเหนียวนุ่มเหมาะทำข้าวหลาม ส่วนที่บ้านไม่มีใครปลูกข้าวเหนียวแล้วนำมาทำข้าวหลาม เพราะข้าวจะแข็ง ไม่เหมาะกับการนำมาทำข้าวหลาม ที่หมู่บ้านท่าศิลา ตำบลเมืองแก อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นหมู่บ้านที่มีอาชีพทำข้าวหลามขายเกือบทั้งหมู่บ้าน และเป็นหมู่บ้านข้าวหลามที่ขึ้นของจังหวัดสุรินทร์ และเป็นสินค้าโอท็อปของหมู่บ้าน เป็นที่นิยมรับประทาน เนื่องจากนุ่ม อร่อยและสะอาด นางสุกัญญาฯกล่าว

ด้านนางเพชร ยืนหาญ แม่ค้าขายข้าวหลาม ชื่อร้านแม่เพชร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.7 บ้านหนองตาด ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ บอกว่า ขายข้าวหลามมากว่า 20 ปี แล้ว ไม่เคยซื้อข้าวเหนียวกิโลละ 50 บาท กระสอบหนึ่งตกไป 2 พันบาท จากเดิมกิโลกรัมละ 28-30 บาท ขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 50 บาท ส่งผลกระทบต่อการทำข้าวหลามมาก จากที่เคยทำวันละ 300-400 กระบอก เหลือเพียงวันละ 100 กระบอก ต้องเซฟทุกอย่าง เจ๊ง ปิดร้านไปหลายร้านแล้ว บางร้านหยุดได้ก็หยุด แต่ตนมีภาระต้องต่อสู้ต่อไป เฉพาะเดือนสิงหาคมนี้ราคาขยับขึ้น 3 รอบแล้ว ส่วนข้าวหลามก็ยังขายราคาเดิม นางเพชรฯกล่าว