หนุ่มหัวร้อนด่าตร.รับทราบข้อกล่าวหา

คืบหน้ากรณีคลิปหนุ่มหัวร้อนขับรถยนต์ชนเสาไฟฟ้า และคนขับขี่รถยนต์มีอาการเมา และด่าทอตำรวจในที่เกิดเหตุ เมื่อเวลา 16.00 นาฬิกา วันที่ 2 พฤศจิกายน ร้อยตำรวจเอก ธงชัย กาสีใส รองสารวัตร ( สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย ได้รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดบ้านค่าย แจ้งว่ามีเหตุรถยนต์กระบะชนเสาไฟฟ้า ที่ริมถนนสายสวนหลาว - ดอนจันทร์ หมู่ 1 ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยอง ที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเล็ต สีขาว หมายเลขทะเบียน 6 กฮ - 8637 กรุงเทพมหานคร ชนเสาไฟฟ้าริมถนนข้างทาง ทำให้เสาไฟฟ้าและรถยนต์ได้รับความเสียหาย ทราบชื่อคนขับ นายวงศกร  ยามาตร อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ บ้านเลขที่ 132 หมู่ 7 ตำบลอุ่นเม้า อำเภอ ธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด อยู่ในอาการมึนเมา ยืนพูดจาด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีชาวบ้านได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้ จนเป็นเหตุพิพากวิจารณ์กันในโลกโซเชี่ยลกัน ว่าสมควรหรือไม่

วันนี้เวลา 11.00 นาฬิกา ที่สถานีตำรวจภูธรบ้านค่าย พันตำรวจโท พูนศักดิ์  นานันท์  รองผู้กำกับ ( สอบสวน)  ได้สอบปากคำนายวงศกร  ยามาตร อายุ 33 ปี คนขับรถยนต์  มารับทราบข้อกล่าวหา แจ้งข้อกล่าวหาว่า ขับรถขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น  เฉี่่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นทรัพย์สินทางราชการ  (เสาไฟฟ้า) ได้รับความเสียหาย มีผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ 152 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ เกินกว่าที่กฏหมายกำหนดห้ามเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์  อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000  - 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และศาลสามารถสั่งพักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบขับขี่ และศาลสามารถยึดรถได้ไม่เกิน 7 วัน นำตัวพิมพ์ลายนิ้วมือ ปล่อยตัวชั่วคราวและส่งตัวไปศาลแขวงจังหวัดระยองในวันพรุ่งนี้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

นายวงศกร  ยามาตร  อายุ 33 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปนั่งดื่มสุรากับเพื่อน ที่ชากไม้รวก หมู่ 11 ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองและขับรถเพื่อจะกลับบ้านที่บ้านคลองขนุน หมู่ 11 ตำบลหนองบัวอำเภอบ้านค่ายจังหวัดระยอง มาถึงที่เกิดเหตุรถยนต์เสียหลักแหกโค้งลงข้างทางชนเสาไฟได้รับความเสียหายแต่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างไร ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุและได้ลงมาและพูดว่าคุยไม่รู้เรื่องขอใบขับขี่หน่อย ตนเองรู้สึกว่าไม่ได้ผิดอะไรเนื่องจากแค่รถยนต์ชนเสาไฟฟ้าไม่มีคู่กรณีและไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด รถยนต์มีประกันประเภท 1 ทางประกันก็มาดูความเสียหายไป และตนพูดว่ารู้เรื่องกฎหมายดีๆ แทนที่ตำรวจน่าจะบริการประชาชนให้ดี เนื่องจากตนเองเป็นคนพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว เป็นคนพูดตรงไปตรงมา ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก  เจ้าหน้าที่ตำรวจคงจะดำเนินคดี แต่อย่างใดก็ตามตนก็จะรับผิด และให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา