เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา นายศุภชัย สุกใส ผอ.ป่าไม้ภาคใต้ กรมป่าไม้ นำกำลัง จนท.ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 4 ภาคใต้ กรมป่าไม้ ร่วมกับ จนท.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ จนท.ทหาร กอ.รมน.กระบี่ กว่า 20 นาย เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง-ป่าหงอนนาค บนภูเขาอ่าวนาง บ้านคลองแห้ง หมู่ 3 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เนื่องจากได้รับการประสานจากนายทรัพย์สิน จงดี ผอ.ส่วนจัดการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลาดตระเวนพบพื้นที่ดังกล่าว มีการบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ป่าจนราบกินเนื้อที่หลายไร่ โดยบางส่วนติดอยู่ในเขตอุทยานฯ

 

พื้นที่ดังกล่าว ตั้งอยู่บนภูเขาอ่าวนางเป็นจุดที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันได้ 180 องศา ห่างจากย่านท่องเที่ยวหาดอ่าวนางไม่ถึง 1 กม. จนท.พบสภาพพื้นที่ป่าเพิ่งถูกบุกรุกแผ้วถางจนราบเตียน มีร่องรอยการนำรถแบ็คโฮเข้ามาปรับพื้นที่ ทำเป็นถนนทางเข้าพื้นที่ คาดว่าเพิ่งเข้ามาปรับพื้นที่ได้ไม่เกิน 1 เดือน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยการใช้สีสเปรย์ฉีดไว้ตามต้นไม้ เรียงตัวเลข 1-14 เป็นระยะรอบพื้นที่ดังกล่าว ตรวจสอบในพื้นที่ยังพบหลักหมุดโฉนดที่ดิน ปักอยู่จำนวน 3 หลัก ลักษณะเหมือนจัดเป็นแนวเขตแบ่งแยกเป็นแปลง จึงตรวจสอบไปยังสำนักงานที่ดิน จ.กระบี่ ในเบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าว ไม่มีเอกสารสิทธิครอบครอง จนท.ทำการตรวจวัดพื้นที่ทั้งหมด พบเนื้อที่ป่าถูกบุกรุกรวม 40 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนางฯ จำนวน 37 ไร่เศษ อีก 2 ไร่เศษ เป็นพื้นที่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราฯ จึงทำการจับพิกัดจีพีเอส ตรวจยึดพื้นที่คืน

 

นายศุภชัย กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบกับทางสำนักงานที่ดิน พบว่าไม่มีการออกเอกสารสิทธิครอบครองใด ๆ ทั้งสิ้น เชื่อว่าน่าจะเป็นการบุกรุกของกลุ่มนายทุน เพราะมีการนำเอารถแบ็คโฮขึ้นมาปรับพื้นที่ทำถนนล้อมรอบพื้นที่ และพบลักษณะการจัดสรรแบ่งพื้นที่ออกเป็น 14 แปลง แต่ยังไม่มั่นใจว่ามีการแบ่งซอยพื้นที่ออกเพื่อจุดประสงค์อะไร นอกจากนี้ยังไม่พบหลักฐานการบุกรุกเพื่อใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ส่วนหลักโฉลกที่ดินที่พบในพื้นที่ ได้บันทึกภาพไว้เตรียมนำไปตรวจสอบกับทางสำนักงานที่ดิน อีกครั้ง ว่ามาได้อย่างไร ใครเป็นคนนำมาติดตั้ง เบื้องต้นได้ทำบันทึกตรวจยึดได้ร่วมกับอุทยานฯ โดยจะนำบันทึกตรวจยึด เข้าแจ้งความหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ดินแปลงดังกล่าว ถือเป็นที่ดินตั้งอยู่บนยอดเขาที่เป็นทำเลทอง เนื่องจากพื้นที่หาดอ่าวนาง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวหัวใจหลักของ จ.กระบี่ มี นทท.หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวพักผ่อนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทำให้มีการขยายตัวของโรงแรมที่พักจนแทบไม่มีพื้นที่ว่างเปล่าหลงเหลือ โดย จนท.คาดว่ามีการเตรียมปรับพื้นที่เพื่อจัดสรรแบ่งขาย ซึ่งจากการตรวจสอบมูลค่าที่ดินย่านหาดอ่าวนาง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.กระบี่ พบว่าหากมีการซื้อขายจริง ที่ดินแปลงนี้อาจจะมีมูลค่าสูงกว่า 500 ล้านบาท นอกจากนี้ จนท.ยังตรวจสอบพบว่าพื้นที่ติดกัน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูงจากพื้นที่ตรวจยึด มีสภาพเป็นพื้นที่ป่า ไม่มีสภาพการปลูกพื้นผลอาสิน แต่กลับมีการออกเอกสารโฉนดที่ดิน เนื้อที่กว่า 40 ไร่ ซึ่งทาง จนท.ป่าไม้ เตรียมตรวจสอบไปยังสำนักงานที่ดิน จ.กระบี่ อีกครั้งว่าที่มาของเอกสารสิทธิออกมาถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่