วันที่ 10 มกราคม 63 นายแดง แก้วชิงดวง ประธานชาวประมงเรือเล็กชุมชนคลองบางนางรม เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ นำผู้ปกครอง นักศึกษา ระดับ ปวช.วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ สาขาบัญชี รวมตัวกว่า  200 คน ยืนถือป้ายประท้วง พร้อมปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียงโจมตีการทำงานผู้บริหารสถานศึกษา ที่บริเวณด้านข้างอาคารภายในวิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ ฝั่งพาณิชย์  ใกล้ศาลากลางจังหวัด โดยมี พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองประจวบฯ นำกำลังตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย หลังจากผู้ปกครองและนักศึกษาไม่พอใจกรณีการศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขั้นสูง (ปวส.) สาขาบัญชี ของวิทยาลัยเทคนิคประจวบฯ จะเปิดสอนเฉพาะระบบทวิภาคีในการศึกษาหน้า ทำให้ผู้ปกครองและนักศึกษาได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากต้องมีค่าใช้จ่ายสูง

นายแดง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปร้องเรียนที่กระทรวงศึกษาธิการและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ผู้ว่าราชการจังหวัดไม่มีอำนาจตัดสินใจ และหากการประท้วงครั้งนี้ไม่คืบหน้า ไม่มีคำตอบที่น่าพอใจ การรวมตัวครั้งต่อไปจะมีชาวบ้านจาก 15 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯและกลุ่มประมงเรือเล็กมาร่วมประท้วงด้วย เนื่องจากผู้บริหารเคยแจ้งว่าหากใครไม่พอใจให้ไปเรียนที่อื่น

นายสุวรรณ ทองกรอย ประธานสภาทนายความ จ. ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองเพื่อให้สภาทนายความช่วยเหลือ จากการตรวจสอบพบว่ามีข้อเรียกร้องดังกล่าวนานกว่า 2 เดือน แต่ยังไม่ได้รับคำตอบจากผู้บริหารสถานศึกษา เนื่องจากเดิมมีการกำหนดให้เปิดเรียนเป็น 2 ลักษณะในระบบปกติ และแบบระบบทวิภาคี โดย การเรียนมีความแตกต่าง เนื่องจากระบบปกติเรียนในชั้นเรียน 1 ภาคเรียน แล้วฝึกงาน 3 เดือน แล้วกลับมาเรียนต่ออีก 1 ปี จึงจบการศึกษา ส่วนระบบทวิภาคี เรียน 1 ปี และฝึกงาน 1 ปี จึงจบการศึกษา และเดิมพบว่ามีการให้สิทธิในการเรียนลักษณะดังกล่าว แต่ที่ผ่านมาผู้บริหารสถานศึกษาจะใช้ระบบทวิภาคีเท่านั้น โดยอ้างนโยบายของส่วนกลาง ทำให้นักศึกษาเห็นว่าน่าจะขัดแย้งกับหลักการของสิทธิในการเลือกเรียนได้ตามความเหมาะสมจากปัจจัยหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาจากค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหากต้องเรียนในระบบทวิภาคีภาคบังคับ.