ป้าวัย 56 ปีที่ถูกทนายฟ้องยึดบ้าน ที่ดินร่วม 14 ไร่ เข้าเขียนคำร้องต่อ สนง.บังคับคดีนางรอง ให้เป็นคนกลางขอไกล่เกลี่ยกับทนาย ที่ฟ้องและยึดที่ดินไป ด้วยเหตุผลมีรู้กฎหมาย ผอ.ระบุเป็นเพียงขอความร่วมมือ ไม่มั่นใจจะมาวันนัดหรือไม่เพราะเป็นสิทธิ์ ขณะป้ายังภาวนาลุ้นให้ทนายเมตตา ให้ไถ่คืน

วันที่ 13 ม.ค.63 กรณีนางวัฒนา คงงาม อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 42 หมู่ที่8 บ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ถูกทนายของบริษัทรถจักรยานยนต์แห่งหนึ่งฟ้องยึดที่ดินและบ้านรวมเนื้อที่ร่วม 14 ไร่ ฐานเป็นคนค้ำประกันรถจักรยายนต์ให้กับเพื่อนบ้าน ในมูลค่าความเสียหายของบริษัท 82,040 บาท และมีการขายทอดตลาด โดยทนายคนฟ้อง เป็นคนซื้อเอาที่เสียเอง จนกระแสสังคมออกมาเรียกร้องให้ทนาย ยอมขายคืนให้ในราคาเป็นธรรม จากที่เคยตั้งราคาไว้ 4 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดนายสมเที่ยง บุญสอน อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านสายโท 2 ใต้ พร้อมนาย รังสรร วารีประโคน ทนายอาสา พานางวัฒนา คงงาม ผู้เสียหาย ไปที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง เพื่อเขียนคำร้องให้ สนง.บังคับคดีเป็นตัวกลาง ไกล่เกลี่ย เพื่อขอซื้อบ้านและที่ดินคืนในราคาที่เป็นธรรม

นายสุเมธ เจริญสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง กล่าวว่า หลังจากรับเรื่องคำร้อง ทางบังคับคดี ก็จะทำหนังสือเชิญทนาย เจ้าของที่มาไกล่เกลี่ย ซึ่งเป็นหนังสือเชิงร้องขอความร่วมมือ ส่วนทนาย จะมาหรือไม่ก็เป็นสิทธิ์ของทนาย ไม่สามารถใช้ข้อกฎหมายบังคับได้ เพราะกระบวนการการประกาศขายทอดตลาด ถูกต้องทุกประการ

ด้านนางวัฒนา คงงามผู้เสียหาย กล่าวว่า ยอมรับว่าตนเองไม่รู้ขั้นตอนของกฎหมาย ทนายบอกให้ทำอย่างไรก็ทำตาม ถึงตอนนี้ก็รู้ว่าส่งผลกระทบหลายด้าน ทั้งตัวเองและตัวทนาย ถ้าป้าทำอะไรผิดไปก็ขอให้ทนายยกโทษให้ จึงอยากจะขอความเมตตาทนาย ให้ป้าไถ่ที่ดินคืนในราคา 500,000 บาท จากราคาที่ทนายประมูลมาได้ 340,000 บาท จะให้ป้าเป็นทาสรับใช้ก็ยอม