เมื่อเวลา  12.00 น.วันที่  16 ม.ค.63  นางจารีย์พัน พรหมพิชัย อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่  185/2  หมู่ที่ 4  ตำบลหงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ได้เล่าเหตุการณ์ว่า ในช่วงเวลา 02.00 น ของวันที่ 15 มกราคม 2563  ซึ่งตนเอง ไปเฝ้าพ่อ ที่ป่วยอยู่ที่ ตึกผู้ป่วยในชาย ของโรงพยาบาลท่าแซะ และได้ถูกคนร้ายล้วงกระเป๋าไปในขณะหลับ โดยสูญทรัพย์สินไปทั้งสิ้น เป็นเงิน 770 บาท พาวเวอร์แบงค์สีชมพูสายชาร์จ โทรศัพท์ยี่ห้อ Vivo  ราคาประมาณ 3-5 พันบาท ซึ่งตนเองหลับไปในช่วงเวลาประมาณ 02:00 น.และตื่นขึ้นในช่วง 05.00 น ก็พบว่า กระเป๋าที่ใส่กระเป๋าเงินนั้น ที่วางอยู่ด้านบนศีรษะ ล้มลง ต้นจึงคว้ากระเป๋าพบว่า กระเป๋าด้านในหายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตามหาผู้กระทำผิด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามารับบันทึกประจำวัน และ ดูสถานที่เกิดเหตุแล้วจึงขอดูกล้องวงจรปิด จากโรงพยาบาลท่าแซะ พบว่า กล้องวงจรปิด ที่โรงพยาบาลติดตั้งนั้นไม่สามารถเปิดดูได้ โดยเจ้าหน้าที่ ของทางโรงพยาบาล บอกว่ากล้องไม่ได้ set up ไว้จึงไม่สามารถดูได้ ซึ่งตนเอง ไม่ได้กังวลถึงทรัพย์สินที่หายไป แต่อยากจะฝากเตือน ไปยังผู้ใช้บริการของทางโรงพยาบาลท่าแซะ ให้ระมัดระวังทรัพย์สิน ของตนเอง เนื่องจากมีโจรแอบแฝงตัวมาในคราบของญาติที่มาเฝ้าผู้ป่วย

ทางด้านพันตำรวจโท ณธัชพงศ์ วรภัทรศิริสกุล สารวัตรป้องกันและปราบปราม สถานีตำรวจภูธรท่าเเซะ  ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยได้เข้าไปดูพื้นที่เกิดเหตุ และสอบถาม ผู้เสียหาย โดยขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวน ลงไปยังพื้นที่ และกำลังสืบหาผู้กระทำความผิด โดยอาจจะใช้ การสืบหาจาก โทรศัพท์มือถือที่ผู้กระทำความผิดได้ลักขโมยไป ในส่วนของกล้องวงจรปิดของทางโรงพยาบาลนั้น ตนคิดว่าอาจจะเกิดจาก การขาดการบำรุงรักษา และติดตั้งมานานแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแล อาจจะคิดว่ายังคงใช้งานได้ตามปกติเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์มาก่อน ทำให้ไม่ได้ลองทดสอบ และตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งอาจจะไม่ได้ภาพจากบริเวณใกล้เคียงก็คงต้องสืบหาจากภาพวงจรปิดที่ได้จากหน้าโรงพยาบาล หรือบริเวณทางเดินทางเชื่อมต่างๆที่กล้องสามารถใช้งานได้ โดยเบื้องต้น ได้ส่งสายตรวจเข้าไป ตรวจตามจุดต่างๆ ของทางโรงพยาบาลเพื่อเช็คดูกล้องที่ใช้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้ ทางพันตำรวจเอก ธงชัย นุ้ยเจริญ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธร ท่าแซะ ได้เข้าไปพูดคุยกับทาง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าแซะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มีการตรวจสอบกล้องตามจุดต่างๆและทดลองว่าสามารถใช้ได้จริง  100%