วันที่ 20 มี.ค.63 เวลา 13.30 น. ร.ต.ท.จเรศักดิ์ สุวรรณสนธิ์ รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตภายในห้องพัก ที่บริเวณชั้น 3 ของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่านด้านหน้าหมู่บ้านสุวินท์ธารา ตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังในที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังชุดสืบสวนจากกองกำกับการสืบ ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และสายตรวจประจำตำบลคลองหลวงแพ่ง

ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเม้นท์ก่อสร้างในลักษณะเป็นอาคารรูปทรงตัวยูเชื่อมถึงกัน 3 ด้าน สูง 3 ชั้นหลังสีเขียว ที่บริเวณชั้น 3 ใกล้หัวมุมจุดเชื่อมของตัวอาคารทางด้านซ้ายของตึก ซึ่งเป็นห้องพักเลขที่ 312 พบภายในห้องก่อนถึงประตูห้องน้ำ มีร่างของผู้เสียชีวิตนอนลักษณะคว่ำหน้า เป็นหญิง 1 ราย ร่างกายอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยจนขึ้นอืดแล้ว ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ

 

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ น.ส.สุดาวรรณ ภูนิคม (ป่อมแป๋ม) อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 1 ม.8 ต.ลาดยาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นข้าราชการในตำแหน่งเจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติการ อบต.คลองหลวงแพ่ง โดยมีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ธุรการเกษียนหนังสือราชการภายในสำนักงาน อบต.

 

หลังจากเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบภายในบริเวณห้องพักแล้ว ไม่พบร่องรอยของการรื้อค้น หรือมีร่องรอยของการต่อสู้ สอบถามเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเป็นข้าราชการและเจ้าหน้าที่ภายใน อบต.คลองหลวงแพ่ง ซึ่งเดินทางมาติดตามดูผู้ตายยังในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมากหลายคน ทราบว่า ตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเพื่อนรวมงานใน อบต.ไม่พบว่าผู้ตายเดินทางไปทำงานมาเป็นเวลา 4 วันแล้ว

 

จึงเกิดความสงสัย และได้พากันเดินทางมาดูพร้อมกันหลายคน จนมาถึงยังหน้าห้องพักของผู้ตาย พบความผิดปกติเนื่องจากได้กลิ่นเหม็นเน่ารอดออกมาตามช่องประตู และยังพบว่ามีแมลงวันบินเข้าไปยังภายในห้องด้วย จึงได้ช่วยกันงัดเปิดห้องดู จนพบว่าผู้ตายได้เสียชีวิตลงแล้ว จนร่างกายอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยดังกล่าว ก่อนที่จะแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าของหอพักทราบ

 

โดยผู้เสียชีวิตปกติเป็นคนร่าเริงแต่ไม่ค่อยพูดมากนัก แต่เป็นคนชอบดื่มสุรา และดื่มหนักมาก จนถึงขั้นเคยไปเข้ารับการบำบัดโรคพิษสุราเรื้อรัง โดยผู้ตายเป็นหญิงสาวหน้าตาดีรูปร่างเล็กแต่ใจใหญ่ ชอบเลี้ยงเพื่อนฝูงและคนรู้จัก และมักจะชอบออกไปดื่มสุราตามร้านค้าร้านอาหารโดยรอบบริเวณที่พักเกือบทุกวัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะไปเซ็นเชื่อไว้จนเกือบทั่วทุกร้าน และจะนำเงินไปจ่ายให้ในช่วงสิ้นเดือน แต่เพื่อนๆ ร่วมงานส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ไปดื่มด้วยกันนัก เนื่องจากเมื่อผู้ตายดื่มสุราแล้วมักจะพูดเยอะมาก และพูดข่มเพื่อนๆ มากกว่า จึงมักจะเป็นคนที่รู้จักกันภายนอกที่มาร่วมวงดื่มด้วย แต่ก็ไม่เคยพาใครเข้ามายังภายในที่พัก

 

สำหรับชีวิตส่วนตัวของผู้ตายนั้น ได้เคยจดทะเบียนสมรสกับนายตำรวจยศผู้กองรายหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร แต่ได้แยกกันอยู่แล้ว โดยมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 20 ปีแล้ว เมื่อกว่า 10 ปีก่อนผู้ตายเคยมาทำงานที่ อบต.คลองหลวงแพ่ง เมื่อครั้งเข้ามาบรรจุเป็นข้าราชการใหม่ๆ โดยอยู่ได้ประมาณ 3 ปี จึงได้ย้ายกลับไปอยู่ที่ อบต.แถวบ้านเกิดใน จ.กาฬสินธุ์

 

โดยเขาไปอยู่ที่นั่นได้ประมาณ 10 ปี จึงได้ขอย้ายกลับมาทำงานยังที่ อบต.คลองหลวงแพ่ง ที่เดิมอีกครั้ง เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว เนื่องจากบุตรสาวได้เข้ามาเรียนหนังสืออยู่ในกรุงเทพฯ พื้นที่ติดกันกับ จ.ฉะเชิงเทรา จึงต้องการย้ายมาทำงานอยู่ใกล้ๆ กันกับบุตรสาว จนมาพบว่าผู้ตายกลายเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพักในวันนี้

 

หลังการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้ายศพของผู้ตายส่งไปให้แพทย์ชันสูตร ยังที่ รพ.พุทธโสธร เพื่อหาร่องรอยและสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง เพื่อใช้ประกอบสำนวนทางคดีต่อไป