ผกก.สภ.เมืองกระบี่ สั่งกักตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจ 7 นาย แยกตัวเกตอาการเป็นเวลา14วัน หลังใกล้ชิดคนไข้ที่ติดเชื้อโควิด 19 ที่หนีออกจากรพ. กระบี กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลป้องกันตนเอง พร้อมตั้งจุดคัดกองคัดกรอง เจลล้างมือรองรับประชาชนที่มาติดต่อราชการ

จากกรณีที่ ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 19 (ทราบชื่อคือนาย พงศกร รักษ์ทองจันทร์ อายุ 20 ปี ) ชาวตำบลนาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง ได้หลบหนีออกจากรพ. กระบี่ เพื่อจะไปรอขึ้นรถตู้ เดินทางกลับ้านที่ จ.ตรัง ก่อนที่เจ้าหน้าทีตำรวจสภ.เมืองกระบี่ ร่วมกับชุดป้องกันการติดเชื้อโรงพยาบาลกระบี่ จะเข้าไปควบคุมตัว แจ้งข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.โรคติดต่อพ.ศ2558 นำส่งโรงพยาบาลกระบี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการประสานผู้ที่ใกล้ชิดผู้ป่วยรายดังกล่าว ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ และคนขับรถตู้โดยสารที่รับผู้ป่วยมาจากจังหวัดตรัง พร้อมผู้โดยสารรวม8คน ให้กักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน เพื่อป้องกันการระบาด

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 27 มี.ค.63 พ.ต.อ.ณรงค์ ลักษณะวิมล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ ได้มีคำสั่ง ที่ 137/2563 ให้กักตัวข้าราชการตำรวจ จำนวน 7 นาย ที่เข้าไปร่วมจับกุมตัวผู้ต้องหา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 โดยแยกตัวสังเกตุอาการ และติดตามอาการทางเดินหายใจทุกวัน และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดผู้อื่นในที่พำนักหรือที่พักอาศัยจนครบ 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม 2563 จนถึงวันที่ 8 เมษายน2563 โดยไม่ถือเป็นวันลา และรายงานผลการสังเกตอาการทุกวัน ประกอบด้วย ร.ต.อ.ภราดร เพ็ชรทองอ่อน รองสว.ป้องกันและปราบปราม ร.ต.อ.กษิด์เดช มากสุข รองสว.ป้องกันและปราบปราม ด.ต.สบรรณ มีผล ผบ.หมู่ งานป้องกันละปราบปราม ด.ต.สุทธิชัย อมรวิริยะ ผบ.หมู่ (งานป้องกันและปราบปราม) ส.ต.ท.วรุตม์ เปราะทอง ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามด.ต.ไชยยันต์ แสงจันทร์ ผบ.หมู่(งานป้องกันและปราบปราม และส.ต.อ.ศรัญญู พรหมดาน ผบ.หมู่งานป้องกันแปละปราบปราม โดยให้ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

พ.ต.อ.ณรงค์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด 19 สถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เองก็มีการป้องกัน อย่างรัดกุม กำชับให้เจ้าหน้าที่สวมหน้ากาอนามัยทุกคนและดูแลป้องกันตนเอง ส่วนประชาชนที่มาติดต่อราชการ จะเข้าได้ช่องทางเดียวโดยต้องผ่านเครื่องแสกนอุณหภูมิร่างกาย และมีเจลล้างมือบริการบริเวณทางเข้า หากประชาชนไม่ได้สวมหน้ากากมาก็จะมีหน้ากากไว้ให้ เพื่อเป็นการป้องกัน นอกจากนี้ยังมีการจัดเก้าอี้เว้นที่ว่างเอาไว้ ให้ประชาชนที่มาติดต่อราชการได้นั่งห่างกัน เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ