ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ นำเจ้าหน้าที่เฝ้ารถไฟรอจับชายวัย 55 ปี ที่หนีการกักตัว 14 วันที่สนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าตัวอ้างไม่เห็นเจ้าหน้าที่มาแจ้ง ก็เดินออกมาตามปกติ ผู้ว่าฯระบุ ในโบกี้นี้มีคนนั่งจากต้นทางมา18 คน ลงบุรีรัมย์ 4 คน ต้องกักตัว ส่วนที่เหลือจะแจ้งตามเส้นทาง พร้อมแถลงการณ์ต้องเข้าสู่กระบวนการอย่างเข้มข้น

 
วันที่ 4 เม.ย.63 (16.00 น.)นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมชุดปฏิบัติการร่วม EOC โควิด-19 จังหวัดสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 
นำกำลังไปเฝ้าบริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ หลังได้รับรายงานว่า นายประเสริฐ ใจพันธ์ อายุ 55 ปี อยู่เลขที่ 14 หมู่ 12 บ้านโคกใหญ่ ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น แล้วหลบหนีการกักตัว 14วัน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วนั่งรถไฟเที่ยว 14.17 (กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์)จะมาถึงบุรีรัมย์เวลาประมาณ 16.00 น.

โดยหลังจากรถไฟขบวนดังกล่าวเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมตำรวจชุดปฏิบัติการร่วม EOC โควิด-19 จังหวัด เข้าไปกระชับโบกี้รถไฟที่ 3 ขอบขบวน ไม่ให้คนภายในโบกี้นี้ลงจากรถไฟ

เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสารมาในโบกี้นี้รวมกับนายประเสริฐด้วย จำนวน 4 คน โดยตำรวจได้ให้อีก 3 คน ทำประวัติแล้วให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการกักตัวที่บ้าน 14 วันต่อไป ส่วนนายประเสริฐ เจ้าหน้าที่จะต้องรอดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะได้ฝ่าฝืน พ.ร.บ.โรคติดต่อ ส่วนโบกี้ที่ 3 ของรถไฟขบวนนี้ มีผู้โดยสารเดินทางมาตั้งแต่ต้นทางจำนวน 18 คน ซึ่งจะได้ทำการแจ้งให้สถานีรถไฟนั้นๆต่อไปเพื่อให้ติดตามตัวต่อไป

นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดแถลงการณ์ฉบับที่ 7 บริเวณหน้าสถานีรถไฟว่า การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จังหวัดบุรีรัมย์จะทำอย่างเข้มข้น และฝากถึงประชาชนทั่วไปที่เข้าข่ายต้องกักตัว ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นไปตามมาตรการของจังหวัดบุรีรัมย์ ที่จะไม่ให้มีการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 เป็นวงกว้างต่อไป

สำหรับผู้ที่หนีการกักตัวที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ มีจำนวน 3 คน ไปตามจับได้ที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 คน พร้อมภรรยาและญาติรวม 3 คน ทั้งหมดจะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 14 วัน ที่ศูนย์กักกันผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ

 
และจับได้อีก 1 คน ที่สถานีรถไฟบุรีรัมย์ ส่วนอีกรายคือนายศุภชัย สมศรี มีภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 2 หมู่ 17 ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ มีประวัติเดินทางมาจากประเทศการ์ต้า ขณะนี้เดินทางมาถึงบ้านแล้ว และได้รายงานตัวกับผู้นำชุมชน เตรียมรับตัวมากักไว้ที่ศูนย์กักกันฯบุรีรัมย์ แล้วดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต่อไป