วันเสาร์ ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15:03 น.

ภูมิภาค

โกงตาชั่งหมูไม่รอด! ตำรวจจับได้ 2 เร่งล่าหัวหน้าแก๊ง

วันศุกร์ ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 15.04 น.

ไม่ปล่อยให้ย่ามใจ! แก๊งโกงตาชั่งซื้อหมู ตำรวจล่าต่อหัวหน้าแก๊ง หลังจับได้แล้ว 2 คน ผกก. ยันเอาผิดข้อหาลักทรัพย์


บุรีรัมย์-ความคืบหน้าคดีแก๊งคนร้ายหลอกซื้อหมูแล้วโกงน้ำหนัก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา นางยุพี อายุ 62 ปี ชาว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง ว่ามีกลุ่มคนร้าย 5 คน ขับรถกระบะโตโยต้า สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาซื้อหมูจำนวน 9 ตัว


คนร้ายอ้างว่าหมูมีน้ำหนักรวมเพียง 570 กิโลกรัม ทั้งที่ตามจริงควรหนักไม่ต่ำกว่า 900 กิโลกรัม เพราะหมูแต่ละตัวมีน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม จึงขอยกเลิกการซื้อขาย แต่กลุ่มคนร้ายกลับขับรถหลบหนี ทิ้งเงินสดไว้เพียง 40,000 บาท จากราคาที่ควรต้องจ่ายประมาณ 70,000 บาท (คิดราคากิโลกรัมละ 70 บาท) ผู้เสียหายยืนยันจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด


ต่อมาตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน จากทั้งหมด 5 คน โดยหนึ่งในนั้นคือนายพิเชฐ หรือ “แตะ” อายุ 28 ปี ชาว อ.โนนสูง จ.บุรีรัมย์ ให้การว่า ตนเป็นเพียงลูกจ้าง ได้รับการว่าจ้างจากนายจอน ให้มาช่วยซื้อหมู ได้ค่าแรงตัวละ 300 บาท จากนั้นจะมีอีกกลุ่มนำหมูไปขายโรงเชือด ซึ่งตนไม่ทราบราคาขายและไม่ได้ไปด้วย
นายแตะ อ้างว่าไม่ได้โกงตาชั่ง และยืนยันว่าจ่ายเงินครบตามน้ำหนักที่ชั่งได้


พ.ต.อ.สยาม เกียรติบรรจง ผกก.สภ.หนองสองห้อง เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายลักษณะนี้เคยก่อเหตุในหลายพื้นที่ภาคอีสาน โดยมักใช้วิธีโกงตาชั่ง และจ่ายเงินเพียงบางส่วนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแจ้งข้อหาชิงทรัพย์หรือปล้นทรัพย์ เพราะหากถูกจับกุม ผู้ต้องหามักคืนเงินที่โกงมาเพื่อให้จบคดีทางแพ่ง แต่หากหนีไปได้จะมีกำไรส่วนต่างสูง ทำให้ย่ามใจก่อเหตุซ้ำ


ตรวจสอบประวัติพบว่านายแตะ เคยถูกดำเนินคดีข้อหาร่วมกันฉ้อโกงใน จ.กาฬสินธุ์ มาก่อน คาดว่าใช้วิธีการคล้ายกัน


ผกก.สภ.หนองสองห้อง ระบุว่า แม้กลุ่มคนร้ายจะทิ้งเงินไว้ให้ 40,000 บาท แต่ผู้เสียหายได้ยกเลิกการซื้อขายเพราะน้ำหนักหมูไม่ตรงตามจริง ขณะเดียวกันคนร้ายกลับหลบหนี จึงเข้าข่ายความผิด ฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ” ซึ่งตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 3 คนแล้ว คาดว่าจะติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค