วันที่ 20 เม.ย. 63 บรรยากาศที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย ในช่วงสายคึกคักติดต่อกันเป็นวันที่สาม มีเจ้าหน้าที่จากทำทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเดินทางมาเตรียมความพร้อมที่จะรับคนไทยที่ตกค้างใน สปป.ลาว ที่ได้แจ้งความประสงค์กับสถานทูตไทย ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว ไว้ เดินทางกลับประเทศเป็นวันที่สาม หลังจากที่สองวันที่ผ่านมามีคนไทยที่ตกค้างใน สปป.ลาวเดินทางกลับ โดยผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแล้ว รวม 15 คน ส่วนวันนี้มีผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เดินทางกลับเพิ่มขึ้นเป็น 31 คน จากเดิมที่ลงทะเบียนไว้ 15 คน ถือเป็นวันที่มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางกลับไทยมากที่สุด

 

หลังเดินทางมาถึงด่านพรมแดนฯฝั่งไทย ทุกคนก็ได้ผ่านการคัดกรองจากเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจังหวัดหนองคาย ผ่านขั้นตอนการเข้าเมืองจากด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคายและด่านศุลกากรหนองคาย , จัดทำทะเบียนประวัติ , รับฟังคำชี้แจง , เดินทางไปยังสถานที่กักตัว , ทำความสะอาดกระเป๋าสัมภาระและรถยนต์ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ในการดูแล  และส่งตัวกลับภูมิลำเนาหลังผ่านการกักตัวเป็นระยะเวลา 14 วันแล้ว ซึ่งในวันนี้มี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวต้อนรับและชี้แจงเกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทุกจังหวัดต้องดำเนินการหลังจากรับคนไทยกลับจากต่างประเทศ ซึ่งกลุ่มแรกที่เดินทางเข้ามาพบว่ามีชาย 1 คนมีไข้สูงและมีอาการไอ เจ้าหน้าที่เตรียมส่งไปที่โรงพยาบาลหนองคาย เพื่อรักษาตัว และตรวจว่ามีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่

 

สำหรับคนไทยที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรของคนสัญชาติไทย จาก สปป.ลาว ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 จังหวัดหนองคาย ที่แจ้งความประสงค์ไว้ล่าสุดมีทั้งหมด 40 คน คือวันที่ 18 เมษายน 63 จำนวน 8 คน(เดินทางกลับมา 7 คน) , วันที่ 19 เมษายน 63 จำนวน 9 คน (เดินทางกลับมา 8 คน) , วันที่ 20 เมษายน 63 จำนวน 15 คน (ลงทะเบียนเพิ่มอีก 16 คน รวมเป็น 31 คน), วันที่ 21 เมษายน 63 จำนวน 4 คน , วันที่ 22 เมษายน 63 จำนวน 1 คน , วันที่ 25 เมษายน 63 จำนวน 1 คน และวันที่ 1 พฤษภาคม 63 จำนวน 2 คน.