วันที่ 1 พ.ค.63 ที่ สถานธนานุบาลเทศบาลนครอุดรธานี แห่งที่ 1 ถนนสี่ศรัทธา เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมนายสุรศักดิ์ สุระวรรณวิจิตร นายกสมาคมส่งเสริมพ่อค้าจีนอุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ และเศรษฐีผู้ใจบุญชาวอุดรธานี ได้ร่วมกันไถ่ถอนสิ่งของที่ผู้มีรายได้ชาวอุดรธานีนำมาจำนำไว้และส่งมอบพร้อมแจกข้าวสารให้ฟรีอีกคนละ 5 กิโลกรัม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักแบบรักษาระยะห่าง

 

นางสมัย ดวงสมสา บอกว่า ตนเองนำ ตนได้นำเครื่องเชื่อมของสามีมาจำนำไว้เมื่อปลายเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาในราคา 300 บาท เครื่องมือนี้เป็นของสามีโดยสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ตนก็มีอาชีพค้าขาย ช่วงนี้งานสามีไม่ค่อยมีจึงนำเครื่องมือทำกินของสามีมาจำนำไว้เพื่อนำเงินที่ได้มาใช้สอยในช่วงวิกฤตแบบนี้ “ต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญทุกคนที่มาช่วยไถ่ถอนทรัพย์สินให้ครั้งนี้ ที่ในภาวะเช่นนี้ยังมีคนใจบุญออกมาช่วยเหลือประชาชน นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ได้ช่วยชาวอุดรด้วยกัน

 

ส่วนนายยนต์ รอดแย้ม อายุ 57 ปีอาชีพขับรถจยย.รับจ้าง เผยว่า ตนองนำนาฬิกายี่ห้อหนึ่งมาจำนำไว้ในราคา 500 บาทเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวก็ยังไม่พอจ่าย ลำพังอาชีพขับรถจยย.รับจ้างหน้าม.ราชภัฏก็ไม่พอจ่าย ตนเองก็ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาทด้วยแต่ก็ไม่พอจ่ายเพราะบ้านเช่า ข้าวซื้อ รถจยย.ก็เช่าเขา ก็ขอขอบคุณท่านผู้ว่าฯและทุกท่านที่ใจบุญไถ่สิ่งของให้วันนี้ด้วย

 

นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมนายสุรศักดิ์ สุระวรรณวิจิตร นายกสมาคมส่งเสริมพ่อค้าจีนอุดรธานี ร่วมกันเปิดเผยว่า การไถ่ถอนทรัพย์สินให้ประชาชนในครั้งนี้ ไม่ใช่ความคิดของผู้ว่า แต่เป็นแนวคิดที่จังหวัดร่วมกับผู้ใจบุญชาวจังหวัดอุดรธานีร่วมกันคิดและทำการบ้านมานานกว่า 2 สัปดาห์โดยมาตรการที่เราร่วมกันคิดนี้เป็นมาตรการเสริมที่ได้ร่วมกันทำงาน

 

ในจังหวัดอุดรธานีมีโรงรับจำนำ 9 โรง โรงรับจำนำของรัฐบาล 4 โรง โรงจำนำเอกชน 5 โรง ซึ่งเราจะดูแลครอบคลุมทั้งหมด สิ่งที่เราเน้นไถ่ถอนให้กับประชาชนวันนี้ คือ เครื่องมือประกอบอาชีพราคาไม่เกิน 500 บาท เราจะช่วยเหลือไถ่ถอนประชาชนกลุ่มนี้ก่อน เงินก้อนแรก 160,000 บาท ที่นำมาช่วยเหลือกลุ่มแรกวันนี้ 139 ราย เป็นเงินที่ผู้ใจบุญลงขันกัน นอกจากนี้ยังมีประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่เราสำรวจมา คือ กลุ่มประชาชนที่นำสิงของมาจำนำในราคาไม่เกิน 1,000 บาท กลุ่มนี้มีประมาณ 700-800 ราย คาดว่าเราจะใช้เงินประมาณ 7-8 แสนบาทในการช่วยเหลือ เบื้องต้นเราจะจ่ายดอกเบี้ยให้ก่อนเบื้องต้น จากนั้นผู้ใจบุญจะมีการลงขันกันอีกครั้งเพื่อไถ่ถอนให้ แต่ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบยอดและอยู่ระหว่างการลงขันหาเงิน ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1 ล้านกว่าบาท ในการช่วยเหลือประชาชนประมาณ 1,203 คน