เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2563  ที่ท่าอากาศยานสนามบินนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม  พร้อมด้วย  นายแพทย์ จิณณพิภัทร  ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทีมคัดกรองควบคุมเฝ้าระวังโรควิด ลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรอง ประวัติการเดินทาง ผู้โดยสารขาเข้า ที่ใช้บริการสายการบินมาจาก สนามบินดอนเมือง มายังสนามบินนครพนม หลังมีการเปิดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นเที่ยวแรก  

 

ส่วนในวันนี้ เป็นเที่ยว ที่ 2  โดยมีการเปิดให้บริการวันละ 1 เที่ยวบิน ประมาณ วันละ 70 – 80 ที่นั่ง  ส่วนวันแรกได้ มีผู้โดยสารเดินทางมา จำนวน 73 ราย และวัน ที่ 2 เดินทางเข้ามา จำนวน 90 ราย  ซึ่งทุกรายจะต้องผ่านการตรวจสอบคัดกรอง วัดอุณหภูมิ รวมถึง ซักประวัติ กรอกข้อมูล ไทม์ไลน์การเดินทาง ตั้งแต่ต้นทางถึง ปลายทาง รวมถึง ระยะเวลา เข้ามาพักในพื้นที่ จุดที่พัก ประวัติการเจ็บป่วย และที่อยู่ติดต่อ เพื่อความสะดวกในการตรวจสอบ ทั้งนี้ ในส่วนการเข้าออกทางสายการบิน  จ.นครพนม มีเที่ยวบินเหลือวันละ 1 เที่ยว บิน ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคัดกรอง ทั้งเข้าออกทุกราย  นอกจากนี้ ยังได้ เพิ่มมาตรการเข้มงวดกลุ่มเสี่ยง มาจากพื้นที่จังหวัดเสี่ยงสูง หากพบบุคคคลใด เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงสูง หรือมาจากต่างจังหวัดยังไม่ผ่านการคัดกรอง จะต้อง เข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วันทุกราย  

 

ด้าน นายแพทย์   นายแพทย์ จิณณพิภัทร  ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า สถานการณ์การควบคุมป้องกันโรคโควิดระบาด ทาง สสจ.นครพนม ยังมีมาตรการเข้ม ร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งการตรวจสอบคัดกรองการเดินทางเข้าออกรวมถึง คัดกรองตามชุมชนหมู่บ้าน ร่วมกับ ทีม อสม. โดยมีผู้ป่วยสะสมที่ 2 ราย ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ปัจจุบันผลการตรวจรักษาหายป่วยไม่พบเชื้อทั้ง 2 ราย อยู่ระหว่างการส่งตัวไปฟักฟื้นที่บ้าน มีทีม อสม.ลงพื้นที่ สังเกตอาการทุกวัน จนกว่าจะปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจโอกาสกลับมาป่วยซ้ำอีกยาก  นอกจากนี้ หลังมีการเปิดสายการบินวันละ 1เที่ยว เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ส่วนใหญ่จะเป็นผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจาก สนามบินดอนเมือง กทม. เมื่อถึงสนามบินนครพนม เราจะมีทีมคัดกรอง ตรวจสอบบันทึกประวัติครบถ้วน เพื่อคัดกรองโรค ตั้งแต่การวัดอุณภูมิร่างการ ซักประวัติการเดินทาง ระยะเวลาที่เข้าออก ที่พัก เพื่อให้สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา ซึ่งมั่นใจจะสามารถควบคุมได้ หากพบบุคคลเข้าข่ายเสี่ยงสูงจะต้องมีการนำไปตรวจสอบ เข้าสู่การกักตัวทุกราย  

 

ส่วนประชาชน ที่มีข้อมูลว่า จะเดินทางมาจาก จ.ภูเก็ต พบว่า มีประมาณ 107 ราย แต่ตรวจสอบแล้วไม่น่ากังวล เนื่องจากเป็นกลุ่มคนที่ผ่านการกักตัว 14 วันแล้ว  สำหรับกลุ่มคนที่มาจาก จ.ภูเก็ต พื้นที่เสี่ยงสูงก่อนนี้ ประมาณ 110 ราย พ้นระยะเวลากักตัวทั้งหมดไม่พบป่วย อย่างไรก็ตามฝากประชาชนในพื้นที่ อย่าตระหนก และให้ปฏิบัติตามคำสั่งของทางราชการ สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกจากบ้าน หรือจุดสาธารณะที่มีคนพลุกพล่าน  ยืนยันทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้คาดหวังต้องการจับกุมสำหรับผู้ฝ่าฝืน แต่ต้องการให้ทุกคนปลอดภัยจากโรคร้าย  ซึ่งทาง จังหวัดนครพนม ร่วมกับ สสจ.นครพนม และทุกหน่วยงาน มีมาตรการดูแลคัดกรองทุกด้าน ทั้งความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่ รวมถึงบุคคลที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่ จะต้องมีการตรวจสอบคัดกรองทุกราย ซึ่งมีทีม อสม. ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ติดตามดูแล ต่อเนื่อง