ที่ จ.สุพรรณบุรี วันที่ 6 มิ.ย.ร.ต.ท.ศรัณญ์  วิทยาธรลิขิต  รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้ที่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 5 ต.พิหารแดง อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.พิหารแดง และเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี   จำนวน 3 คันเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลพิหารแดง เจ้าหน้าที่ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 17 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนสายโพธิ์พระยา-วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พบไฟกำลังโหมลุกไหม้ที่ก่อไผ่ขนาดใหญ่สูงกว่า 30 เมตรและกำลังลุกลามเข้าบ้านเรือนประชาชนเจ้าหน้าที่จึงรีบฉีดน้ำสกัดเพื่อควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงใช้เวลากว่า 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้แต่กอไผ่ได้ถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งกอและบ้านเรือนของชาวบ้านถูกไฟลามเข้าไปไหม้ได้รับความเสียหายบางส่วน

จากการสอบถามนายบุญเหลือ หนานปา อายุ 57 ปีเจ้าของบ้านที่ยังอยู่ในอาการตกใจเล่าว่าก่อนเกิดเหตุตนและนางดาวรุ่ง หนานปา อายุ 56 ปีภรรยาอยู่ในบ้านโดยตนกำลังอาบน้ำส่วนภรรยากำลังเตรียมสำรับกับข้าวมื้อเย็นขณะที่ตนกำลังเดินออกจากห้องน้ำภรรยาได้ตะโกนบอกไฟไหม้ๆจึงรีบวิ่งออกมาดูก็พบไฟกำลังโหมลุกไหม้ที่พื้นดินบริเวณโคนกอไผ่ซึ่งมีใบไผ่แห้งกองสุมอยู่เป็นจำนวนมากจากนั้นไฟได้ลุกลามเข้ามาที่หลังคาและหน้าต่างบ้านของตน ตนและภรรยารวมทั้งญาติพี่น้องที่อยู่ใกล้กันได้ออกมาช่วยกันใช้ทั้งสายยางและถังน้ำดับไฟแต่ไม่สามารถดับได้เนื่องจากมีลมพัดกระพือโหมแรงมากทำให้ไฟลูกลามขึ้นไปถึงยอดกอไผ่แดงฉานอย่างน่าหวาดกลัวทางญาติเห็นว่าไม่สามารถดับได้แน่จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยดับโชคดีที่สามารถดับไว้ได้ทันก่อนที่ไฟจะไหม้บ้านของตนวอดทั้งหลัง
 

ส่วนสาเหตุตนเชื่อว่าเกิดจากการเสียดสีระหว่างสายไฟฟ้ากันต้นไผ่ที่ถูกลมพัดโยกส่ายไปมาบริเวณยอดเสาทำให้เกิดไฟช็อต และมีกายไฟตกลงมาถูกกองใบไผ่แห้งโคนกอไผ่ก่อนจะเกิดลุกไหม้และลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว นับว่าโชคดีที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงหัวค่ำเจ้าของบ้านยังไมนอนไม่เช่นนั้นอาจเกิดโสนาฏกรรมขึ้นก็เป็นได้อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป