วันอังคาร ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568 11:54 น.

ภูมิภาค

สนามบินสุวรรณภูมิพร้อมรับผู้โดยสารชาวต่างชาติ

วันศุกร์ ที่ 03 กรกฎาคม พ.ศ. 2563, 17.26 น.

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแถลงข่าวมีความพร้อมรับผู้โดยสารชาวต่างชาติเข้าประเทศ ด้วยระบบตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเครื่อง PCR มีความแม่นยำ95% รู้ผลภายใน 90 นาที

 


เมื่อวันที่ 3 ก.ค.63 ที่ห้องประชุมชั้น 5 ตึก AOT ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ  จ.สมุทรปราการ  น.ท. สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย  น.พ.สุวิช  ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พร้อมคณะ ได้ร่วมกันแถลงข่าวตอบข้อซักถามสื่อมวลชนในเรื่อง สนามบินสุวรรณภูมิมีความพร้อมรับผู้โดยสารชาวต่างชาติเข้าประเทศไทย ตามประกาศ ของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ด้วยการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด – 19 ในระบบการตรวจหาสารคัดหลั่งทางพันธุ์กรรม หรือ  PCR ซึ่งมีความรวดเร็วและแม่นยำ               

 

 

น.ท. สุธีวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ออกประกาศเรื่อง เงื่อนไขในการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้าออกประเทศไทย (ฉบับที่ 2) เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งตามประกาศดังกล่าวได้กำหนดให้อากาศยานที่ขนส่งบุคคล สามารถทำการบินมายังท่าอากาศยานในประเทศไทย รวมถึงบุคคลจะเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศยานต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประกาศของสำนักงานการบินพลเรือนฯ เท่านั้น

 

 

ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวทางการปฏิบัติตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) และข้อกำหนดทางกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องกับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จึงได้มีการประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข หน่วยงาน ราชการ สายการบินต่างๆ และผู้ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานฯ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานร่วมกันให้สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล                        

 

โดยได้กำหนดมาตรการต่างๆ อย่างการตั้งจุดคัดกรองของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ การจัดเตรียมพื้นที่ตั้งห้องปฏิบัติการสำหรับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยระบบการตรวจหาสารคัดหลั่งทางพันธุกรรมหรือ PCR ซึ่งมีความรวดเร็วและแม่นยำถึงร้อยละ 95 และจะสามารถทราบผลตรวจได้ภายใน 90 นาที  โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้มีการจัดเตรียมพื้นที่บริเวณ Gate D3  และ D4 ไว้เป็นห้องพักคอยสำหรับผู้โดยสารที่ต้องรอผลตรวจ ซึ่งภายในห้องดังกล่าวมีการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และจัดที่นั่งให้มีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) รวมทั้งมีห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวก มีน้ำดื่มไว้ให้บริการ นอกจากนี้ท่าอากาศยานยังจัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก และให้คำแนะนำผู้โดยสารในการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม (ใบ ต.8) การโหลดแอปพลิเคชันติดตามตัว รวมถึงการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ ด้วย สำหรับผู้โดยสารชาวไทยยังคงต้องผ่านกระบวนการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามมาตรการของรัฐ และเข้ารับการกักตัวในสถานที่รัฐจัดเตรียมไว้ให้ (State Quarantine) เป็นระยะเวลา 14 วันเช่นเดิม                   

 

 

ในส่วนค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 คนละประมาณ 3,000 บาท ซึ่งเมื่อตรวจเชื้อแล้วผลเป็นบวก ก็จะส่งต่อไปโรงพยาบาลที่ทางผู้เดินทางได้ทำประกันไว้ หรือส่งต่อให้กับโรงพยาบาลในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อรับไปทำการรักษาต่อไป.

หน้าแรก » ภูมิภาค