เมื่อวันที่ 31 ก.ค 63 พ.ต.ท.ณรงค์ เมืองด้วง สว.(สอบสวน) สภ.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุว่า มีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์กระบะ ซึ่งจอดอยู่บริเวณลาดจอดรถหน้าบริษัทแห่งหนึ่งบริเวณ ถ.ขวาง ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต หลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.วิชิต, พิสูจน์หลักฐานภูเก็ต, แพทย์เวรโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต และเจ้าหน้าที่มูลนิธิภูเก็ตร่วมใจกู้ภัยที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสีขาว ทะเบียน บน 6837 ภูเก็ต ตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าว พบร่างของชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อภายหลังคือ  MR.HOKI JUNG อายุ 40 ปี สัญชาติเกาหลี นอนเสียชีวิตอยู่บนเบาะนั่งด้านคนขับ สวมเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ  

 

จากการตรวจสอบพบว่าก่อนเกิดเหตุ ได้มีการนำสายท่อต่อกับถังไนโตรเจน ซึ่งวางอยู่ท้ายรถยนต์กระบะ นำปลายสายมาสอดใส่บริเวณห้องโดยสารส่วนแค๊ปของรถจากนั้นนำเอาเทปกาวปิดทับ นำปลายสายผูกติดกับถุงพลาสติก และเอาถุงพลาสติกคุมศรีษะจนถึงบริเวณต้นคอ และใช้ผ้าเทปพันรวบถุงที่บริเวณลำคอ นอกจากนี้ยังพบจดหมายซึ่งมีข้อความเป็นภาษาเกาหลีวางอยู่ภายในรถยนต์คัดดังกล่าว และจากการแปลเป็นภาษาไทยโดยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลเกาหลี ประจำจังหวัดภูเก็ต มีรายละเอียดว่า “ขอโทษครอบครัวของผม คนที่ดูแลผม ให้อภัยผมด้วยที่ทำแบบนี้ ผมพยายามเต็มที่แต่ก็ไม่ได้ ผมรู้สึกผิดที่ทำหลายเรื่อง แต่เรื่องมันไม่จบ รู้สึกติดใจที่ทิ้งแฟนที่ให้กำลังใจและความรักของผม ขอโทษนะที่ผมเอาแต่ใจและตัดสินใจแบบนี้ ขอบคุณมากๆ ที่รักผม เป็นชีวิตที่สั้นและเสียดาย แต่ตอนนี้อยากพักแล้วครับ ขอโทษอีกครั้งครับ”

 

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียชีวิตขับรถยนต์เก๋ง ทะเบียน กอ 862 ภูเก็ต ออกมาจากบ้านเลขที่ 100 /67 หมู่ที่ 3 บ้านทรงคุณนาบอน ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต ผ่านกล้องวงจรปิดของบริษัทโกเด้น ไทรเองเกิล บีน จำกัด เมื่อเวลาประมาณ 07.35 น. วันเดียวกันนี้ (31 ก.ค.63)  และมาจอดบริเวณลานจอดรถจากนั้นได้เดินไปสูบบุหรี่อยู่สักพักใหญ่ ก่อนที่จะเดินไปที่รถยนต์กระบะ โดยพบว่ามีการทำอะไรบางอย่างอยู่ที่รถนานประมาณ 17 นาที แต่ไม่สามารถมองเห็นได้ชัด เนื่องจากกล้องวงจรปิดอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุ

 

จากการสอบถามทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดลูกค้าต่างประเทศ ก่อนเกิดเหตุได้ให้พนักงานซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทและเป็นลูกน้องของผู้เสียชีวิตหาซื้อถังไนโตรเจน โดยแจ้งว่าจะนำไปเป็นอุปกรณ์อัดเม็ดกาแฟ เนื่องจากผู้เสียชีวิตจะเปิดร้านจำหน่ายกาแฟ แต่ลูกน้องของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าไม่สามารถหาซื้อได้ จนกระทั่งมาพบเกิดเหตุดังกล่าว

 

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า การก่อเหตุนั้นครั้งนี้ น่าจะมาจากความเครียดเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องงานเนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ จึงทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยการรมแก๊ส ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ ก่อนนำส่งพิสูจน์อย่างละเอียดที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป