บุรีรัมย์ฮือฮา! เสี่ยใหญ่นำรถแบคโฮปรับที่นา ขุดดินลึกชิดถนนลาดยางจนริมถนนกลายเป็นเหว ตำรวจทางหลวงเร่งตรวจสอบ หวั่นกระทบความปลอดภัย

วันที่ 14 ก.ค. 68 หลังมีผู้เผยแพร่คลิปวิดีโอการทำงานของรถแบคโฮที่กำลังปรับพื้นที่นา และขุดดินจนล้ำเข้าไปชิดถนนลาดยาง ลึกประมาณ 1 เมตร ทำให้บริเวณริมถนนกลายสภาพคล้ายหน้าผาสูง จนชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก ตรวจสอบพบว่า จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสายหนองตาด-เสม็ด พื้นที่ ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยได้พูดคุยกับ นายสมหมาย (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี พนักงานขับรถแบคโฮ

จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีการขุดดินริมถนนยาวกว่า 400 เมตร เว้นเฉพาะหลักบอกทาง ถนนส่วนใหญ่ถูกขุดชิดจนแทบถึงผิวลาดยาง มองเผินๆ คล้ายการปรับพื้นที่เพื่อขยายถนนหรือทำถนน 4 เลน


นายสมหมาย ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากเสี่ยนักธุรกิจรายหนึ่งใน อ.เมืองบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ให้เข้าปรับพื้นที่นา โดยเจ้าของที่ชี้จุดให้ขุดจนชิดกับถนนลาดยาง พร้อมระบุว่าที่ดินของตนมีเขตแดนลึกไปถึงเส้นกลางถนน ตนจึงปฏิบัติตามคำสั่ง โดยตอนแรกตกลงค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง แต่จนถึงขณะนี้ทำงานมาแล้วกว่า 6 ชั่วโมงก็ยังไม่แล้วเสร็จ

ด.ต.ปรากฎ วิเศษนคร ผบ.หมู่ ส.ทล.2 กก.6 บก.ทล. (ทางหลวงบุรีรัมย์) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายให้เข้าตรวจสอบหลังมีประชาชนโทรแจ้งว่า มีคนขุดดินล้ำเข้ามาในเขตถนน เมื่อไปถึงยอมรับว่าเป็นภาพที่น่าหวาดเสียว เพราะการขุดใกล้ถนนเช่นนี้เสี่ยงอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน ส่วนตัวมองว่าอาจเข้าข่ายความผิด แต่ยังต้องรอการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของเจ้าของที่ดินให้ชัดเจน


ด้าน นายพัฒนชาติ พลวัน ปลัดอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า ได้รับการร้องเรียนเรื่องนี้มาก่อนหน้านี้แล้ว เนื่องจากชาวบ้านกังวลว่าการขุดดินลึกจะทำให้ถนนทรุดตัว หรืออาจเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากไหล่ทางหายไปหมด ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 วัน เจ้าหน้าที่เคยลงพื้นที่ร่วมตรวจสอบกับกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ซึ่งยืนยันว่าเขตทางหลวงวัดจากเส้นกลางถนนออกไปด้านละ 15 เมตร

อย่างไรก็ตาม เมื่อเชิญเจ้าของที่ดินมาพูดคุย เจ้าของที่ยังยืนยันว่าที่ดินของตนล้ำเข้าไปถึงเส้นกลางถนน จึงยังหาข้อสรุปไม่ได้
นายพัฒนชาติ ระบุว่า การขุดถนนเช่นนี้แม้จะอ้างเอกสารสิทธิ์ ก็อาจเข้าข่ายความผิด เพราะถนนสายดังกล่าวสร้างมาแล้วประมาณ 60 ปี และปรับปรุงต่อเนื่องจนเป็นถนนลาดยางในปัจจุบัน ขณะนี้ได้แจ้งให้กรมทางหลวงชนบทไปแจ้งความต่อ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หากเจ้าของที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ก็จะต้องนำมาแสดงและตรวจสอบต่อไป


สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าว เดิมเคยเป็นของชาวบ้านในพื้นที่ ก่อนจะเปลี่ยนมือมาเป็นของนักธุรกิจในตัวเมืองบุรีรัมย์เมื่อราว 5-6 ปีก่อน