วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 21:10 น.

ภูมิภาค

ตายแล้วฟื้น! หนุ่มวัย 20 น็อกคาชักโครกไร้ชีพจร 5 ชม. หมอชี้แค่หลับลึก

วันพฤหัสบดี ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2563, 20.46 น.
จากกรณีเมื่อค่ำวันที่ 12 สิงหาคม 2563 เกิดเรื่องราวสุดอัศจรรย์ใจ แปลกประหลาดที่จังหวัดกาญจนบุรี หลังหนุ่มนักศึกษาเกิดเสียชีวิต ขณะนั่งปลดทุกข์อยู่บนโถชักโครกในห้องน้ำ หลังพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมแพทย์เวรรพ.พหลพลพยุหเสนา ตรวจชันสูตรไม่พบชีพจร ลงความเห็นว่าเสียชีวิต ขณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯกำลังใช้ผ้าห่อ เตรียมนำร่างส่งสถาบันนิติเวช หนุ่มน้อยเกิดฟื้นคืนจากความตาย ท่ามกลางความตกตะลึง ของทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ 
 
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไป พิสูจน์เรื่องราวที่บ้านเลขที่ 364 /2 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมืองจังหวัดกาญจนบุรี ลักษณะเป็นห้องแถว2ชั้น4ห้องเรียงติดกัน ไม่พบนายรเมศ จันทะโก ทราบว่าพี่สาวพาตัวเดินทางไปรพ.ในกรุงเทพฯ เพื่อตรวจอาการอย่างละเอียด  
 
ทั้งนี้ได้พบ นายกษิบ์ดิฐช์ เงินบาท อายุ 38ปี ซึ่งลูกพี่ลูกน้องกับ นายรเมศ จันทะโก หนุ่มตายแล้วฟื้น และเป็นผู้ประสพเหตุพบ นายรเมศ ในห้องน้ำเป็นคนแรก ได้เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ บิดาของนายรเมศ โทรศัพท์มาบอก นางสวรส เงินบาท ซึ่งมีศักดิ์ เป็นป้าของนายรเมศ ว่า ให้ช่วยไปดูนายรเมศ ด้วยว่า เหตุใดโทรมาหลายครั้งแล้ว ทำไมไม่รับสาย นางสวรส จึงเดินไปเรียก เพราะบ้านอยู่ใกล้ๆกัน โดยตะโกนเรียกหลายครั้งดังอย่างไร ก็ไม่มีเสียงตอบรับ  
 
นางสวรส เกิดเอะใจจึงได้ไปบอกนาย กษิบ์ ดิฐช์ เงินบาท ลูกชาย พร้อมกับญาติพี่น้อง ช่วยกันนำอุปกรณ์เครื่องมือมางัดประตู ก็พบนายรเมศ อยู่ในสภาพนั่งเปลือยกายหลับตาคอตก อยู่บนโถชักโครก จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ พร้อมแพทย์ รร.พหล  
 
จากการตรวจและชันสูตรของแพทย์ ถึง 2 ครั้ง พบว่าหัวใจหยุดเต้น จนท.มูลนิธิ ฯ จึงช่วยกันปั๊มหัวใจทำ CPR ก็ไม่หายใจไม่พบชีพจร ลำตัวซีดขาวเหมือนไม่มีโลหิตหล่อเลี้ยง จึงลงความเห็นว่าเสียชีวิต ขณะที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จับร่างตะแคงข้างเพื่อทำการห่อผ้าขาว สังเกตเห็นหนังตากระตุก ร่างกายแขนขาเริ่มขยับ และพบว่านายรเมศ ซึ่งเสียชีวิตแล้วกลับฟื้นคืนชีพดังกล่าว 
 
นายกษิบ์ดิฐช์ เผยต่อว่า หลังจากที่แพทย์ลงความเห็นว่าเสียชีวิต เป็นระยะเวลาผ่านไปราว 5 ชม.โดย ตั้งแต่ เวลา 14.00 น.จนถึง เวลา 19 .00 น. พอนายรเมศฟื้นขึ้นมา เหมือนมึนงงและถามว่าทำไมมีคนเยอะแยะ ต่อมาราว2ชม.นายรเมศ ก็มีอาการเป็นปกติ สามารถจำเรื่องราวเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาได้ โดยบอกกับทุกคนว่า รู้สึกตัวว่ามีจนท.มูลนิธิฯและแพทย์พยาบาล จับร่างพลิกไปมา แต่ไม่สามารถร้องเรียกหรือขยับตัวได้  
ทางด้านนางสาวรติมา จันทะโก พี่สาวของนายรเมศ บอกกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า นายรเมศ ขณะนี้ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว มาตั้งแต่เด็กๆ ก็ดูแลรักษากันมาตลอด นิสัยใจคอเป็นคนร่าเริง ไม่นิ่งเงียบชอบสนุกสนาน เป็นคนคุยเก่ง ชอบซักถาม และวันนี้(13ส.ค.)ได้พาตัวนายรเมศ เดินทางไปยังโรงพยาบาลพระมงกุฎ เพื่อตรวจสุขภาพในวันรุ่งขึ้น(14 ส.ค.)ต่อไป 
 
ทางด้านนายแพทย์ สมเจตน์ เหล่าลือเกียรติ ผอ.รพ.พหลพลพยุหเสนา เปิดเผยว่าหลังทราบข่าวเรื่องนี้ ได้ตรวจสอบรายละเอียดจนทราบว่า แพทย์ที่เดินทางไปตรวจชันสูตร เป็นแพทย์จบใหม่ ยังขาดประสบการณ์ จึงตรวจสอบร่างกายไม่ละเอียด ไม่ได้เสียชีวิตแล้วฟื้น ตามที่เป็นข่าว เป็นอาการหลับลึก ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ อีกทั้งนายรเมศเป็นโรคหัวใจ เคยรับการผ่าตัดทำบายพาสมาแล้ว ร่างกายไม่แข็งแรง จึงเกิดอาการหลับลึกดังกล่าว ต้องขอโทษในความผิดพลาดของแพทย์ ทำให้สังคมสับสนเข้าใจผิด จากนี้จะเข้มงวดกำชับ ให้แพทย์ที่ปฎิบัติงาน ในการตรวจสอบ ต้องให้ละเอียดถูกต้องรัดกุม เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด  

หน้าแรก » ภูมิภาค