วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 07:45 น.

ภูมิภาค

ดร.สมชอบ นิติพจน์ จับมือเพื่อไทยลุยหาเสียง สานต่อสร้างอาชีพเกษตร ชูนโยบายปลูกพืชเศรษฐกิจ

วันอังคาร ที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 21.06 น.

วันที่ 1 ธันวาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(นายก อบจ.ฯ) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (ส.อบจ.ฯ) กำลังคึกคักมากขึ้น โดยเฉพาะแชมป์เก่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หมายเลข 3 ที่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ลงสู้ศึกในนามทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม นับวันยิ่งเพิ่มความเข้มข้นในการลงพื้นที่หาเสียงเชิงรุก เพื่อพบปะพี่น้องประชาชน พร้อมแนะนำผู้สมัคร ส.อบจ.นครพนม รวมทั้งชูนโยบายหาเสียงในการพัฒนาขับเคลื่อนจังหวัดนครพนม โดยก่องานใหม่สานงานเก่าที่ยังทำค้างไว้

 


ในการเลือกตั้งครั้งนี้ อดีตแชมป์เก่า 2 สมัยซ้อนต้องเจอศึก 2 ด้าน เป็นการวัดคะแนนความนิยม และวัดบารมีระหว่าง 1 พรรคใหญ่ 2 กลุ่มการเมืองท้องถิ่น ประกอบด้วย กลุ่มก้าวหน้า ที่มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มให้การสนับสนุนทีมคณะก้าวหน้านครพนม ส่งนายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ผู้สมัครนายก อบจ.ฯ หมายเลข 1 หวังโกยคะแนนเสียงในหมู่นักเรียน นักศึกษา ส่วนกลุ่มนครพนมร่วมใจ มี “น้องขวัญ” นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ ผู้สมัครนายก อบจ.ฯ หมายเลข 2 นักการเมืองหน้าใหม่ ทายาท”ครูแก้ว” นายศุภชัย โพธิ์สุ เป็นหัวหน้าทีม และพรรคเพื่อไทยมีแชมป์เก่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ เป็นหัวหอก โดยทั้งหมดต่างพยายามลงพื้นที่หาเสียง เรียกคะแนนนิยมจากชาวบ้านให้ได้มากที่สุด

 


สำหรับรูปแบบการหาเสียงของทีมคณะก้าวหน้านครพนม นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ และกลุ่มนครพนมร่วมใจ นางสาวศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ จะเน้นการพบปะชาวบ้านแบบใกล้ชิดลงพื้นที่ตามชุมชน หมู่บ้าน หรือเดินตามตลาดในแหล่งผู้คนพลุกพล่านเป็นหลัก ไม่เน้นการเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ จะมีเพียงทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม โดยการสนับสนุนของพรรคเพื่อไทย ที่ ดร.สมชอบ นิติพจน์ เน้นการเปิดเวทีปราศรัยเชิงรุกในพื้นที่ 12 อำเภอ รวม 30 เขตเลือกตั้ง

 


 

ส่วนนโยบายสำคัญของทีมแชมป์เก่า จะเน้นการส่งเสริมอาชีพเกษตรทางเลือก เช่นการปลูกพืชเศรษฐกิจ รวมถึงการพัฒนาแหล่งน้ำการเกษตร เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เป็นหลัก


ดร.สมชอบ นิติพจน์ เปิดเผยว่า เกี่ยวกับนโยบายสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม ได้เน้นนโยบายที่สานต่อจากพรรคเพื่อไทย ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ได้จริง เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย ส่งเสริมช่วยเหลือประชาชนมาแล้วทุกด้าน จึงจับต้องและสัมผัสได้จริง ไม่ใช่เป็นการขายฝัน

 


โดยทีมรวมพลังเพื่อไทย เพื่อนครพนม ได้วางแนวทางการส่งเสริมการทำเกษตรทางเลือกใหม่ เช่น ปลูกมะพร้าวใหญ่ส่งโรงงานผลิตกะทิ ซึ่งมีราคาต้นทุนต่ำเพียงเบี้ยละประมาณ 50 -60 บาท/ต้น และมีการเดินทางไปศึกษาดูงานในสถานที่จริงมาแล้วหลายครั้ง โดยใช้มะพร้าวพันธุ์ที่พัฒนาสายพันธุ์จนเป็นที่ยอมรับจากเกษตรกร เวลาเก็บผลผลิตตั้งแต่ 3- 4 ปี และสามารถสามารถเก็บผลผลิตไปได้ถึง 50 ปี ส่วนการปลูก 1 ไร่ ปลูกได้ 35 ต้น สร้างรายได้ขั้นต่ำไร่ละประมาณ 5,000 บาท/เดือน ปลูก 10 ไร่ เกษตรกรจะมีรายได้ตกเดือนละ 50,000 บาท หากคิดเป็นปีจะมีรายได้ 5-6 แสนต่อปี และมีตลาดรองรับไม่อั้น โดย ดร.สมชอบฯกล่าวต่อว่าพี่น้องประชาชนทราบหรือไม่ว่า ทุกวันนี้มีการนำเข้ามะพร้าวใหญ่จากประเทศเวียดนาม อินโดนีเซีย วันละไม่ต่ำกว่า 300 ตัน เพราะในประเทศไทยผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ดังนั้นการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจ หวังพลิกวิถีการทำเกษตรแบบดั้งเดิม ให้มีรายได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งจะมีการวางแผนจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอ

 

 


นอกจากนี้จะได้สนับสนุนโครงการ 1 ไร่ได้ 1 แสน ในการทำการเกษตรครบวงจร ให้ชาวบ้านมีรายได้มั่นคง สามารถดูแลครอบครัวได้ โดยไม่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนไปอยู่ที่อื่น ซึ่งนโยบายดังกล่าวตนเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้จริง และจะเกิดประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่มากที่สุด

หน้าแรก » ภูมิภาค