วันพฤหัสบดี ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567 18:14 น.

ภูมิภาค

แก๊งวัยรุ่นตามล่าอริวัย15ปี บุกบ้านแม่ญาติทำลายทรัพย์สิน

วันอาทิตย์ ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2564, 19.49 น.

ผวาแก๊งวัยรุ่นเหิมหนักอุกอาจยกพวกเกือบครึ่งร้อยตามไล่ล่าคู่อริวัย15 ปี ไม่เจอ บุกบ้านแม่ บ้านญาติ กลางชุมชน ทุบปาสิ่งของเสียหายหลังก่อเหตุหัวโจ๊กยังส่งคลิปเสียงมาข่มขู่อย่าริสู้ถ้าปืนมีไม่ถึง 5 กระบอก ต้องตายแบบลูกหมา

 


            

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 24 ม.ค.64  ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 9/3 หมู่ 2 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ใกล้กับถนนสายชุมพร-ปะทิว หลังจากเมื่อกลางดึกได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 20-30 คน บุกไปหาคู่อริวัย 15 ปี แต่ไม่พบตัวจึงได้ใช้ก้อนหินทุบกระจกหน้าบ้านจนแตก พร้อมส่งคลิปเสียงข่มขู่จะกลับมาอีกก่อนยกพวกกลับไป โดยพบกับ นางสาวรัชนี แท่นอินทร์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน พร้อมญาติพี่น้องที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ออกมาให้ข้อมูลและพาไปดูยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว โดยพบว่าที่กระจกหน้าต่าง 2 บาน ใกล้กับประตูบ้านแตกหล่นกระจายพื้นและกรงเหล็กดัดคดงอ ส่วนบนพื้นมีก้อนหินใหญ่กว่ากำปั้นตกอยู่ 1 ก้อน คาดว่าที่กลุ่มคนร้ายใช้ทุบหน้าต่างทั้ง 2 บาน จนกระจกแตกเสียหายเพื่อจะเข้าไปหาคู่อริภายในบ้าน แต่ไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากติดกรงเหล็กดัด ก่อนจะตะโกนข่มขู่แล้วพากันออกไป

 


นางสาวรัชนี แท่นอินทร์ อายุ 45 ปี กล่าวว่าช่วงเกิดเหตุเกือบจะเที่ยงคืนแล้วขณะที่ตนนอนอยู่ได้มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นประมาณ 20-30 คน ขับรถจักรยานยนต์มากว่า 10 คัน และรถยนต์กระบะมาจอดบนถนนใกล้บ้าน แล้วมีวัยรุ่นราว 4-5 คน เดินลงไปที่บ้านซึ่งลูกชายตนนอนอยู่ 2 คน โดยคนโตอายุ 19 ปี คนน้อง ชื่อนีม อายุ 15 ปี ส่วนตนนอนอยู่บ้านอีกหลังห่างกันประมณ 10 เมตร ซึ่งแก๊งวัยรุ่นตะโกนเสียงดังเรียกชื่อ “ไอ้มีน” แต่ก็ไม่มีใครตอบ จากนั้นก็ได้ยินเสียงกระจกหน้าต่างแตก พร้อมเสียงตะโกนด่าทอท้าทายข่มขู่ต่างๆนาๆ ครู่ต่อมากลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดเข้าใจว่าลูกชายตนคงไม่อยู่ในบ้านจึงพากันขับรถออกไป ตามหาที่บ้านญาติอีกหลังอยู่ห่างกันประมาณ 3 กม.

 


             

นางสาวรัชนีกล่าวว่าด้วยความเป็นห่วงลูกจึงออกมาดูและพบเพียงลูกชายคนโตที่กำลังเดินออกมาจากบ้านหลังที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทุบกระจกหน้าต่างแตก ส่วนน้องนีมอายุ 15 ปี ที่กลุ่มวัยรุ่นตะโกนเรียกหาซึ่งนอนอยู่อีกห้องได้เปิดหน้าต่างหลังบ้านหนีไปหลบซ่อนอยู่ในสวนปาล์ม ซึ่งเมื่อตนสอบถามสาเหตุทราบเพียงว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริที่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้มีบ้านอยู่ใน อ.เมืองชุมพร และ อ.ท่าแซะ และหลังจากก่อเหตุไม่นานหัวโจกวัยรุ่นแก๊งนี้ได้ส่งคลิปเสียงให้เพื่อนของ “น้องมีน” ลูกชายตน ผ่านทางเฟซบุ๊กในลักษณะข่มขู่ว่า “ กูเอาจริงมึงเห็นแล้วยังกูบุกมาถึงบ้านและจะกลับมาหาอีกมึงจะเอาสักกี่กระบอก พร้อมกับบอกว่าอย่าได้คิดสู้ถ้าพวกมึงมีปืนไม่ถึก 5 กระบอก ต้องตายเหมือนลูกหมาแน่ ”  ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่อุกอาจเหิมเกริมบุกเข้ามาข่มขู่จะทำร้ายและทำลายทรัพย์สินในยามวิกาล ทำให้ตนและญาติพี่น้อง ชาวบ้านหวาดกลัวอย่างมาก ช่วงเกิดเหตุตนโทรแจ้ง 191 ได้ส่งตำรวจมาตรวจสอบ และเมื่อตอนสายที่ผ่านมาตนได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.ปะทิว ข้อหาบุกรุกยามวิกาลและทำให้เสียทรัพย์ จึงอยากให้ตำรวจตามจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะกลังว่าจะย้อนกลับมาอีก

 


           

ส่วนอีกจุดห่างกันประมาณ 3 กิโลเมตร ที่กลุ่มวัยรุ่นแก๊งดังกล่าวไล่ล่าตามหาคู่อริยามวิกาลและบุกทำลายทรัพย์สิน โดยอยู่บริเวณปากทางเข้าถนนเทศบาลสะพลี ซอย 1 เป็นห้องแถวเช่าชั้นเดียวเลขที่ 4/6 หมู่ 1 ตำบลสะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านเช่าของ นางสาวอนุชิตา สุภารัตน์ อายุ 48 ปี ผู้เป็นป้าของ นายนีม อายุ 15 ปี  ที่ถูกแก๊งวัยรุ่นตามไล่ล่าตัว โดยพบว่าที่บานกระจกทึบดำประตูหน้าบ้านถูกทุบจนแตกเป็นวงกว้างราว 1 ฟุต และกระเบี้ยงหลังคาแตก 1 แผ่น ภายในบ้านมีเศษกระจกเศษกระเบื้อง และก้อนหินขนาดใหญ่กว่ากำปั้นที่คนร้ายใช้ขว้างปาตกอยู่ 2 ก้อน

 

             

นางสาวอนุชิตา สุภารัตน์ อายุ 48 ปี กล่าวว่าช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนกว่าได้มีกลุ่มวัยรุ่นมากกว่า 20 คน ขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์กระบะมาจอดอยู่บนถนนใหญ่ปากซอย แล้วมีวัยรุ่น 4-5 คน เข้ามาเรียกชื่อ “ไอ้นีม” ซึ่งเป็นหลานชายตนอายุ 15 ปี ที่ตนเคยเลี้ยงดูและรักเหมือนลูก ซึ่ง “น้องนีม” จะไปๆมาๆ ระหว่างบ้านตนกับบ้านแม่เขาเองที่จุดเกิดเหตุหลังแรก โดยกลุ่มวัยรุ่นได้ตะโกนเรียกให้เปิดประตูบางคนเดินเข้ามาเขย่าประตูด้วยแต่เปิดไม่ได้ เมื่อตนมองผ่านกระจกประตูหน้าบ้านก็เห็นวัยรุ่นจำนวนมากและบางคนถือไม้และถือมีดด้าวยาวๆซึ่งตอนนั้นในบ้านตนนอนอยู่ด้วยกัน 4 คน  มีสามีตน 1 คน กับลูกชายและลูกสะใภ้ 2 คน จึงพากันไปหลบซ่อนหลังบ้าน จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงกระจกหน้าบ้านแตกและหลังคากระเบื้องแตกพร้อมกับก้อนหินหล่นลงมาภายในบ้าน โดยกลุ่มวัยรุ่นได้ส่งเสียงตะโกนด่าด้วยคำหยาบคายและให้ของลับต่างๆนาๆ ไม่นานทั้งหมดพากันขับรถเข้าไปทางตัวเมืองชุมพร  ตอนนี้ได้แจ้งความดำเนนคดีไว้เรียบร้อยแล้ว แต่พวกตนยังหวาดกลัวมากเพราะพฤติกรรมวัยรุ่นแก๊งนี้อุกอาจเหิมเกริม ถึงแม้หลานตนจะไปมีเรื่องกันตามประสาวัยรุ่นแต่ก็ไม่น่าจะมาบุกรุกถึงบ้านและทำลายทรัพย์สินในยามวิกาลแบบนี้.

หน้าแรก » ภูมิภาค