ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์​ ห้องแซง​  ผกก.สภ.ทองผาภูมิ​ จ.กาญจนบุรี​ และ​ พอ.สุทธิ์พร​ จุลปานะ​ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า​ กกล.สุรสีห์ฯและ​ พอ.เฉลิมพล  สังข์ต้อง​ รอง​ ผบ.ฉก.ฯ​ ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ​ทหาร​ชุด​ ฉก.ฯ​ และ​ ตชด.ที่​ 135​ รวมทั้ง อส.ฝ่ายปกครอง​ อ.ทองผาภูมิฯ​ ที่ประจำจุดตรวจร่วมบริเวณสามแยกบ้านท่าขนุน​ อ.ทองผาภูมิฯ​ ว่าได้ร่วมกันทำการตรวจค้นจับกุมยาเสพติดเอาไว้ได้เป็นจำนวนมาก​

     

หลังรับรายงานจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพบว่า​ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังตรวจค้นภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูมิตชิ​ รุ่นไทรทันสีขาว​ หมายเลขทะเบียน​  2​ ฒอ- 359  กรุงเทพมหานครฯ​  และรถยนต์เก๋งอีก​ 1​ คัน​ ซึ่งรถยนต์ทั้ง​ 2​ คันเป็นรถที่ติดสัญญาณไฟวาบๆ​  อยู่บนหลังคารถ รถทั้ง​ 2​ คัน ตรงประตูรถทั้ง​ 2​ ด้าน​ และที่กระจกด้านหน้า​ ด้านหลังมีตราสัญญาลักษณ์ตัวอักษรเขียนว่า​ "กู้ภัยทางหลวง" ติดอยู่ทั้ง​ 2​ คัน

 

     

จากการตรวจค้นที่บริเวณใต้กระบะแม็กไลเนอร์ด้านหลังรถกระบะพบยาบ้าเสพติดประเภท​1(ยาบ้า)บรรจุเป็นมัดๆ​ จำนวน​ 40​ มัดๆ​ ละ​ 2,000  เม็ด​ รวมทั้งสิ้น​ 80,000 เม็ด วางซุกซ่อนอยู่​ ส่วนรถยนต์เก๋งอีกคันจากการตรวจค้นภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย

     

จึงควบคุมตัวนาย​มนตรี​ หรือโก้​ หลวงภิเภก​ อายุ​ 37​ ปี อยู่บ้านเลขที่​ 73/6​ หมู่​ 4​ ต.วังขนาย​ อ.ท่าม่วง​ จ.กาญจนบุรี​ และนายสุทิน​ หรือตั้มหลวงภิเภก​ อายุ​ 29​ ปี​ อยู่บ้านเดียวกัน​ และมีศักดิ์เป็นพี่น้องกัน​ ซึ่งนั่งคู่กันมาในรถยนต์กระบะคันดังกล่าว​ไปสอบสวนปากคำเพื่อขยายผลถึงแหล่งที่มาของยาเสพติด

 

     

เบื้องต้นนายมนตรี​ ให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนางดวงตา หรือเจ้ตา​ บ้านอยู่ใกล้ๆ​ ทางด่วนมอเตอร์เวย์​ ให้ขับรถไปรับยาบ้าที่ตลาดพญาตองซูในประเทศเมียนมาจากนายหน้าชาวเมืย​นมา​ และให้นำของไปส่งในเขตพื้นที่​ อ.ท่ามะกาฯ​ แต่ระหว่างทางก็มาถูกจับเสียก่อน

     

ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลเบาะแสของนางตา​ หรือเจ้ตาเอเย่นต์ยาบ้ารายนี้แล้ว​ จึงควบคุมตัว​ 2​ ผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน​ สภ.ทองผาภูมิ​ จ.กาญจนบุรี​ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

     

มีรายงานข่าวว่า​  การจับกุมยาบ้าครั้งนี้​ ทำให้บรรดาเอเย่นต์ยานรกทั้งรายเล็ก​ รายใหญ่ในเขตพื้นที่​ ต.ท่าเรือ​ อ.ท่ามะกา​ อ.ท่าม่วงฯ​ ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก​ เนื่องจากยาบ้ากำลังขาดตลาด​ เพราะสถานการณ์การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19​ ทำให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดกวดขันในการตรวจรถยนต์ทุกชนิดที่วิ่งผ่านลงมาจาก​อ.สังขละบุรี โดยเฉพาะการเฝ้าระวังบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมาที่มักจะแอบลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย