ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง ที่หวนกลับมาเร็ว ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์  ทำให้เแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านจังหวัดเลย เริ่มส่อเค้าเริ่มวิกฤติขึ้น แล้ว เกิดความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามลุ่มน้ำโขงเดือดร้อน ได้ส่งผลกระทบเกษตรกร ที่จำเป็นต้องใช้น้ำเพื่อนำมาใช้ในการเกษตร พบแม่น้ำโขงแห้งลดลงและแห้งเร็วแค่ชั่วข้ามคืน จนทำให้เห็นหาดทรายยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอเชียงคาน ถึงอำเภอปากชมน้ำโขงแห้งจนเห็นสันดอนทรายเป็นทางยาว และตามเกาะแก่งกลางน้ำโขง อย่างแก่งคุดคู้ โผล่ขึ้นให้เห็นโขดหินชัดเจน และบางจุด น้ำโขงบางช่วงแห้งจนเดินข้ามไปฝั่ง สปป.ลาวได้ 

 

 

นายแดง  คำมูล ชาวบ้านในอำเภอปากชม เล่าว่า หลังปีใหม่มา น้ำก็ลดลงเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ แก่งคูดคู้ยังเห็นมีน้ำบ้าง  ตามชายแดนน้ำโขง อย่างถนนเส้นทางไปยังอำเภอปากชม ทางด้านซ้ายก็มองเห็นโขดแก่งอย่างเห็นได้ชัด น้ำมีน้อยมาก บางจุดเห็นสันดอนได้ชัดเป็นกอนทรายเป็นกิโลเมตร แต่บางวันน้ำก็สูงขึ้นมา ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สูงขึ้นมา 1-2 เมตร และอีกวันหนึ่งก็หายกลับมาแห้งอย่างเดิม สลับกันไป ไม่ทราบการล่วงหน้าได้เลย  เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้ว จนชาวบ้านนั้นไม่ได้หวังน้ำโขงแล้ว น้ำจะมีไม่มีไม่ใช่ธรรมชาติเอง อยู่ที่ ทางประเทศจีนจะเปิดประตูระบายน้ำตอนไหน ลาวจะเปิดเขื่อน ตอนไหน ไทยเราไม่มีเขื่อน ก็ไม่สามารถกำหนดน้ำเองไม่ได้ ปลา สัตว์น้ำต่างๆ ก็เริ่มหาย การดำเนินชีวิต ริมโขงเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จนไม่สามารถพึ่งพาใครได้แล้ว เมื่อไปทำเกษตรที่บนสันดอนก็อยู่ดีๆ ก็มีน้ำไหลบ่ามาและอีก 1-2 วันก็แห้ง เกษตรเสียหาย จนไม่มีชาวบ้านกล้าไปปลูกทำอะไรในสันดอนลำน้ำโขงอีกแล้ว 

 

 

 

สถานการณ์น้ำโขง  ในส่วนอุทกวิทยา 3 เชียงคาน ระดับแม่น้ำโขงเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์  ระดับน้ำโขงอยู่ที่ 3.54  เมตร ลดลง 0.11 เมตร  ต่ำกว่าระดับตลิ่ง  12.46  เมตร จากระดับตลิ่ง 16.00 เมตร