นักเรียนชั้น ม.1 ที่ถูกครูสอนวิชาวิทยาศาสตร์ กระทำชำเราในห้องน้ำในโรงเรียน แล้วถ่ายคลิปเอาไว้ขู่ ยังกักตัวเองอยู่ในห้องนอนไม่ยอมออกไปไหน หลังคลิปถูกแชร์ไปในโลกออนไลน์ พ่อระบุหาเงินส่งลูกเรียนและเสียเงินเพิ่มให้เรียน”ห้องกิฟต์(GIFTED)”ไม่คิดว่าครูจะทำได้ ยันเอาเรื่องถึงที่สุด ผกก.เผยให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

วันที่ 9 มี.ค.64 กรณีนายเอ (นามสมมติ)อายุ 38 ปี พ่อนักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง ชาวอำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานคลิปวีดิโอที่ถูกแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์ และข้อความแชทสนทนาที่ไม่เหมาะสม ระหว่างครูประจำชั้นกับลูกสาวของตัวเอง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการ สภ.กระสัง อ.กระสัง ให้เอาผิดกับนายโอ (นามสมมติ) อายุ 29 ปี

ซึ่งเป็นครูประจำชั้น และครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ หลอก ด.ญ.บี(นามสมมุติ)นักเรียนชั้น ม.1 ลูกสาวของตัวเอง ไปกระทำชำเราภายในห้องน้ำของโรงเรียน พร้อมถ่ายคลิปเอาไว้ขู่ห้ามไม่ให้บอกให้ใครหรือไปแจ้งความ
 
ความคืบหน้าล่าสุด ด.ญ.บี ยังรับกับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ กักตัวเองอยู่ในห้องนอน ไม่ออกมาพบใคร
 

พ่อ ด.ญ.บี บอกว่า ตนทำงานอยู่ต่างจังหวัด ปกติลูกสาวเป็นคนเรียนดี จึงอยากจะให้ลูกได้ความรู้มากยิ่งขึ้น จึงยอมจ่ายเงินเพิ่มให้ได้เรียน” ”ห้องกิฟต์(GIFTED)”และเคยฝากฝังลูกกับครูเอาไว้ ถ้าลูกดื้อให้ทำโทษได้

เมื่อได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรับไม่ได้ และเมื่อมาเห็นหลักฐานแล้วมันชัดเจน ตนจึงเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อแจ้งความเอาผิดกับครู เพื่อให้เอาเรื่องจนถึงที่สุด

ขณะที่ยายเด็กอายุ 61 ปี บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงแม้ดูเหมือนว่าหลานตัวเองจะดูเหมือนยอมให้ครูกระทำ แต่ครูมีอายุและประสบการณ์มากกว่า สามารถหลอกเด็กได้ เด็กนักเรียนซึ่งได้เงินไปโรงเรียนไม่มาก แต่ถ้าครูหยิบยื่นให้ ซื้อของให้ “เด็กก็คือเด็ก”รู้สึกเสียใจ เพราะหลานเป็นคนเรียนเก่งมาก เคยไปสอบชิงทุนมาแล้วหลายครั้ง ไม่คิดว่าครูซึ่งมีเกียรติมีศักดิ์ศรีจะทำกับลูกศิษย์ตัวเองได้ถึงขนาดนี้ อยากจะวิงวอนให้ผู้ใหญ่ดูแลหลานด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผกก.สภ.กระสัง อ.กระสัง ได้ออกมาระบุว่า หลังจากนี้จะเรียกครูคนดังกล่าว มาสอบสวนเบื้องต้นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าจริงเท็จแค่ไหน แต่ภาพที่ผู้ปกครองเด็กนำมาเป็นหลักฐานการแจ้งความ ค่อนข้างจะชัดเจน ว่าเป็นครูที่ถูกกล่าวหาในตอนนี้

เบื้องต้นจะต้องพาเด็กไปตรวจร่างกาย และทำการการสอบปากคำเด็ก โดยมีสหวิชาชีพ,บ้านพักเด็ก,อัยการ และตำรวจร่วมสอบ ทั้งนี้ตำรวจพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย