พ่อค้าแม่ค้า ยันป้าถูกล็อคล้อ นั่งในรถ เปิดไฟเลี้ยว ติดเครื่อง แถมบีบแตรใส่ แย้ง ผู้กองจราจรสภ.เมืองขอนแก่น หลังว่าไม่มีคนนั่งในรถ
 

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า กลายเป็นประเด็นร้อนในสังคมโซเชียลอยู่หลายวัน กรณีแต่เช้าของวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา กรณีนางวัชราภรณ์ ผ่องใส หญิงชาวขอนแก่นได้จอดรถติดเครื่องเปิดไฟกระพริบอยู่ริมถนนศรีจันทร์ ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ 7-11 ถนนศรีจันทร์(ตลาดเช้า) ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลขอนแก่นแล้วให้หลานชาย ซึ่งเป็นคนขับรถ ลงรถไปรับเอาน้ำผลไม้สกัด ซึ่งมีหลานสาวลงรถไปก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะไปซื้อน้ำผลไม้ดังกล่าว ไว้คอย แต่จู่ๆก็มีนายตำรวจทราบชื่อภายหลัง คือ ร.ต.อ.สุพิศม์ ไสยเลิศ รอง สว.(จร.)ฯ ได้ใช้เครื่องบังคับล้อรถยนต์มาล็อกล้อรถทันทีพร้อมกับเขียนใบสั่ง แม้นางวัชราภรณ์จะร้องขอให้ปลดล็อกเพื่อเธอจะได้ขับไปจ่ายค่าปรับที่ สภ.เมืองขอนแก่น แต่ ร.ต.อ.สุพิศม์ไม่ยอมรับฟัง ขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปทันที

ทำให้นางวัชราภรณ์รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนว่าตำรวจจราจรนายนี้ปฏิบัติหน้าที่โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของประชาชน ที่ต้องจ้างรถไปส่งโรงพักและจ้างรถโดยสารกลับมาส่งจุดที่รถถูกล็อก เสียเวลาเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ ในยุคที่เดือดร้อนจากโรคระบาดโควิด-19อยู่แล้วควรจะแก้ปัญหากันด้วยเหตุและผล ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมากกว่าจะใช้อำนาจทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว ทันทีที่ข่าวเผยแพร่ออกไปมีคนแสดงความเห็นต่อว่าก่นด่านางวัชราภรณ์อย่างเสียหายจำนวนมาก

ล่าสุดวันนี้ (1พ.ค.)นางวัชราภรณ์ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้งว่า เธอได้รับความเสียหาย ถูกสังคมเข้าใจผิดจากผู้คนในโซเชียลที่ด่าตำหนิเธอ กล่าวหาว่าเธอไม่เคารพกฎหมาย โดยนางวัชราภรณ์กล่าวว่าคนอ่านข่าวที่ตำหนิเธอนั้นไม่ได้มองในประเด็นที่เธอต้องการสื่อสาร ตีความในสาระข่าวไม่แตก เธอยอมรับว่าผิดจริงที่จอดรถในจุดที่ห้ามจอดและพร้อมจะไปจ่ายค่าปรับตามกฎหมาย แต่ที่เธอข้องใจมากคือกรณีที่ตำรวจไม่ยอมปลดล็อกล้อให้เธอ ทั้งที่ตัวเธอก็อยู่ในรถคันดังกล่าว ในฐานะผู้โดยสาร เพราะขับรถเองไม่เป็น ติดเครื่องยนต์เปิดไฟกระพริบรอหลานชายซื้อของเพียงไม่กี่นาที หรือไม่ก็ควรจะตักเตือนให้เลื่อนรถออกไปก็ยังได้

“สิ่งที่ติดใจคือเมื่อตำรวจไม่ยอมปลดล็อกล้อแล้วจะให้ฉันไปโรงพักไปจ่ายค่าปรับได้ยังไง ต้องให้นั่งแท็กซี่ เรียกแกร็ปคาร์มารับไปโรงพักอย่างนั้นหรือ ทำไมต้องให้ประชาชนเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มอีก ก็ในเมื่อฉันอยู่กับรถอยู่แล้วก็แค่ปลดล็อก จะได้ขับรถไปเสียค่าปรับที่โรงพัก เรื่องมันก็จบ คนอ่านข่าวก็ตีประเด็นไม่แตกก็พากันรุมด่าฉันด้วยถ้อยคำหยาบคายมาก”นางวัชราภรณ์กล่าวและว่า

สิ่งที่เธอติดใจอีกอย่างคือกรณีการให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่นที่บอกว่าตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติหน้าที่ของ ร.ต.อ.สุพิศม์แล้วพบว่าปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เพราะรถจอดกีดขวางจราจรคือจอดซ้อนคันและไม่มีใครอยู่ที่รถจึงต้องบังคับล็อกล้อ ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริงเลย นั่นเท่ากับว่าตำรวจจราจรนายนี้พูดความเท็จตรงข้ามกับเหตุการณ์จริง มีพ่อค้าแม่ค้าพร้อมจะเป็นพยานยืนยันว่าตัวฉันนั่งอยู่บนรถที่ติดเครื่องเปิดไฟกระพริบอยู่ และทำไมทางท่านผู้กำกับไม่เชิญตัวฉันไปสอบถามสอบปากคำเพื่อจะได้ฟังความทั้งสองฝ่าย ควรจะฟังความให้รอบด้าน แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าในตลาดก็น่าจะมาสอบถามด้วย

ด้านนางธนวันต์ สกลนุรักษ์ อาชีพขายลอตเตอรี่ ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า คุณป้าที่อยู่ในรถนั้นแกให้หลานลงมาซื้อน้ำปั่นยังไม่ถึง 1 วินาที เลย สารวัตรดังกล่าวก็ขี่รถมาล็อคล้อแกคุณป้า คุณป้าเลยบีบแตรบอกว่าอย่าล๊อคๆ เสร็จแล้วหลานแกก็วิ่งเลยบอกว่าอย่าล็อคนะครับขอนะ สารวัตรคนนั้นบอกว่าไม่ได้ต้องล็อค แล้วป้าก็ลงจากรถบอกว่าทำไมต้องรังแกประชาชนอย่างนี้ ทั้งที่แกไม่ได้จอดซ้อนคัน จอดยังไม่ถึง 1 วินาทีเลย ที่นี่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ บางคนมาซื้อของก้าวลงจากรถยังไม่ถึง 1 วินาทีหรือ 3 ก้าวเลยก็แอบล็อคล้อรถเขาแล้ว ทั้งที่ในรถก็มีเมียและลูกเขาอยู่ ซึ่งเมียเขากำลังเอานมให้ลูกกิน ยังจะไป ล็อคล้อเขาเฉยเลย
 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ทำเกินไป เกินกว่าเหตุและ กดดันประชาชน ตำรวจคนนี้ทำเกินไปมีแต่จะล็อคล้ออย่างเดียว แม้แต่คนแก่กราบไหว้ขอเขาก็ไม่ให้มีแต่จะเอาอย่างเดียว แม่ค้าเขาเอือมระอากับเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้เหมือนกัน ยิ่งทุกวันนี้ก็ทำมาหากินยากลำบากแถมยังมีโรคระบาดแพร่เชื้อมาด้วยยิ่งลำบากมากกว่าเดิม เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ไม่เคยเตือนมีแต่จะล็อค ถ้าคนเข้ามาซื้อของจอดซ้อนคันหรือจอดนานเกิน 10 นาทีเราก็ไม่ว่าก็ถือว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกใจนี่บางคนมาซื้อของทั้งที่ยังมีคนนั่งอยู่ในรถมาด้วยซื้อยังไม่ถึง 1 วินาทีเลยเขาก็มาล็อคล้ออันนี้ก็เกินไปเพราะเขาไม่เคยเตือนเลย มีแต่จะเอาก็เกินไป เปรียบเทียบกับ ตำรวจอีกท่านหนึ่งซึ่งมียศเป็นนายดาบตำรวจ ซึ่งก็มาปฏิบัติหน้าที่บนถนนสายนี้เช่นกัน กับมี ความเอื้ออาทร ต่อผู้ที่ เข้าข่ายกระทำความผิด กฎจราจรด้วยการตักเตือนก่อน หากไม่ฟังถึงจะทำการล็อคล้อ

นายอดิศักดิ์ ไชยศรี เจ้าของร้านสามแยกกระจกอลูมิเนียมและขายเนื้อ เปิดเผยว่าเห็นรถคันสีขาวทะเบียน กบ.8801 มาจอดเสร็จแล้ว เห็นตำรวจก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามก้นมาเลย มาล็อคล้อโดยมีคนนั่งอยู่ในรถ ข้างซ้ายข้างคนขับ โดยเห็นหลานเขาวิ่งมาซื้อน้ำปั่นน้ำผลไม้ ซึ่งอยู่ข้างๆร้านผมและร้านน้องชายของผม ซึ่งผมเห็นภาพตั้งแต่ครั้งแรก จนผมตะโกนบอกตำรวจว่าเดี๋ยวเขาขับไปเขาอยู่ใกล้ๆเอง ตำรวจเรียกผมไปบอกว่าคุณขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แค่ผมพูดเฉยๆนะครับไม่ได้ ไปขัดขวางอะไร จะล็อคก็ล็อคล้อไปผมก็เลยหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปไว้ ตอนเกิดเหตุไว้ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีคนเยอะ เพิ่งจะ 07:00 น.เช้าเอง รถก็ยังไม่ติด ก็น่าจะตักเตือนกันได้แค่ 30 วินาทีเอง
 

ด้านนายทวีศักดิ์ ลาตำแย อายุ 43 ปี พ่อค้าขายเนื้อ กล่าวว่าเห็น ผู้ชาย เขาลงมาซื้อน้ำผลไม้แค่ 2 ถุง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็น่าจะบอกเขาว่ารีบออกไปหน่อยเดี๋ยวจะล็อคล้อนะซึ่ง ยังไม่ถึงนาทีเลย ก็เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาล็อคล้อโดนเลย บอกว่าอย่าไปล็อคล้อเขาเลย ก็แค่ลงมาซื้อน้ำปั่นแค่ 2 ถุง ก็น่าจะ อะลุ่มอล่วยให้กันซึ่งตอนนั้นผมก็มองไปที่รถคันดังกล่าวก็เห็นมีคนนั่งอยู่บนรถ เห็นภาพชัดเลยครับ

ส่วนนายนิคม จันทร์ศรีเสาร์ อาชีพขายข้าวจี่ 100 ล้าน อายุ 56 ปี กล่าวเสริมว่า เหตุการณ์วันที่ 27 เม.ย.2564 นั้นตนเห็นลูกสาวหรือหลานสาวของคุณป้าดังกล่าวลงมาซื้อน้ำปั่น 2 ถุงส่วนคุณป้าก็อยู่บนรถแล้วเสร็จเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ขี่รถมาล็อคล้อของคุณป้า เสร็จแล้วคุณป้าก็ลงมาบอกว่าอย่าล็อคล้อได้ไหมเขียนใบสั่งได้ไหมจะไปเสียเอง เพราะมันเสียเวลา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นยังล็อคอยู่ ทั้งที่รถยังสตาร์ทและเปิดไฟเลี้ยวอยู่
 

นางนี ประเสริฐสุข อาชีพขายน้ำผลไม้ปั่น อายุ 47 ปี กล่าวว่าเห็นคุณป้าหรือคุณแม่คนดังกล่าว นั่งอยู่บนรถ ให้ลูกหรือหลานๆลงมาซื้อของแทน ส่วนรถก็จะเปิดไฟเลี้ยวและสตาร์ทเครื่องติดไว้ตลอด ในกรณีของคุณป้าหรือของคุณแม่ นี้ก็อยากจะฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตือนก่อนล็อคล้อ เพราะเราค้าขายอยู่ตรงนี้ก็ลำบากลูกค้าจะมาซื้อของก็ซื้อไม่ได้แต่ก่อนเคยขายของมีเท่าไหร่ก็หมดแต่ช่วงนี้จัดระเบียบใหม่ขายของทั้งวัน ยิ่งโรคระบาดโควิมายิ่งขายของได้ยากลำบากมาก

แหล่งข่าว แจ้งมาว่าหลังจากที่มีการปล่อยคลิป การปะทะคารมกันระหว่าง นายตำรวจคนดังกล่าวกับป้าที่รถยนต์ถูกล็อคล้อขณะรถติดเครื่อง และเปิดไฟเลี้ยวพร้อมทั้งมีคนนั่งในรถ ทำให้ทราบว่า นายตำรวจคนดังกล่าวได้อัดคลิปวีดีโอไว้เพราะฉะนั้นความจริง นายตำรวจท่านนี้น่าจะเอาคลิปออกมาเผยแพร่ ต่อสาธารณชน เพราะได้อัดการสนทนา ของคุณป้าท่านนี้ไว้ ความจริงก็จะปรากฏเอง