ชักชวนกันไปลงเล่นน้ำในฝายทดน้ำท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวตอนช่วงบ่าย​ อยู่​ๆ​ 1​ ในจำนวนเด็กสาวกำลังว่ายน้ำก็ดำผุดดำโผล่เพราะถูกกระแสน้ำวนพัดพาร่างจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนที่ตกใจพยายามว่ายตรงเข้าช่วยเหลือ​ จึงถูกกระแสน้ำพัดพาจมหายไปอีกคน

ส่วนอีกคนพยายามตะเกียกตะกายว่ายน้ำขึ้นฝั่งจึงรอดตายหวุดหวิด​ ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านรีบโทรแจ้งตำรวจประสาน​ขอกำลังนักประดาน้ำ​ 5​ มูลนิธิ​ พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือเดินทางแยกย้ายกระจายกำลังออกงมค้นหาเป็นเวลา​ 2​ วัน​ 2​ คืน​ จึงพบร่างอันไร้วิญญาณของ​ 2​ เด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายจมน้ำเสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ เมื่อเวลา​ 16.30​ น.ของวันที่​ 12​ พ.ค.64​ ที่ผ่านมา​พ.ต.ท.สุดเขต​ต์ พิมพากุล​ สารวัตรสอบสวน​ สภ.หนองรี​  อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากตำรวจสายตรวจตำบลหลุมรังว่า​ เกิดเหตุมีคนสูญหายไปในน้ำบริเวณฝายทดน้ำภายในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่หมู่ 5​ ต.หลุมรัง​ อ.บ่อพลอยฯ จำนวน​ 2​ ราย​เป็นเด็กผู้หญิง เจ้าหน้าที่มูลนิธิสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ​ได้ทำการค้นหาร่าง​ แต่ไม่พบเนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก​ จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่กว้างจึงได้ประสานขอกำลังนักประดาน้ำชุดสายน้ำและชุดชลกาญจน์ของมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์​ และนักประดาน้ำชุดสายธารของมูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ เดินทางสนธิกำลังแยกย้ายกันลงงมค้นหาร่างผู้สูญหายจนกระทั่งพบร่างผู้สูญหายจำนวน​ 1​ รายจมน้ำเสียชีวิตแล้ว​ จึงช่วยกันนำร่างอันไร้วิญญาณของเด็กผู้หญิง​วัย​ 13​ ปี ขึ้นมาไว้บนฝั่ง​ เพื่อรอรับการชันสูตรพลิกศพ

ส่วนอีกรายเป็นเด็กผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกันแต่ยังค้นหาไม่พบเนื่องจากถูกกระแสน้ำวนพัดพาร่างจมหายไป หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ​ พร้อมประสานแพทย์เวร​ รพ.บ่อพลอย​ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพพบว่า​ ร่างผู้เสียชีวิตเป็นเด็กผู้หญิงเสียชีวิต​ เนื่องจากขาดอากาศหายใจ​ ตามร่างกายไม่มีบาดแผล​ หรือร่องรอยการถูกทำร้าย
     

สอบสวนทราบชื่อผู้ตายชื่อ​ ดญ.นัน (นามสมมมุติ)​อายุ​ 13​ ปี​ จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ​ นำศพไปเก็บรักษาไว้ที่​ รพ.ฯ​ เพื่อรอญาตินำหลักฐานมาแสดงเพื่อต่อต่อขอรับศพไปจัดการตามประเพณี ส่วนเด็กผู้หญิงที่สูญหายไปในน้ำอีกราย​ เบื้องต้นทราบชื่อ ดญ.บี(นามสมมุติ)​อายุ​ 13​ ปีเช่นกัน

จากการสอบสวนปากคำ​ ดญ.ทราย(นามสมมุติ)​ อายุ​ 13​ ปี​ ซึ่งเป็นเด็กสาวอีก​รายที่รอดพ้นความตายจากการถูกกระแสน้ำพัดพาร่างขณะลงเล่นน้ำครั้งนี้​ ทราบว่า​ก่อนเกิดเหตุ​ อากาศร้อนจัดในช่วงบ่าย​ จึงชักชวนกันไปลงเล่นน้ำเพื่อคลายร้อน​ ขณะที่กำลังเล่นน้ำอยู่ในจุดที่มีความตื้นอยู่นั้น​ อยู่ๆ​ กระแสน้ำก็เริ่มไหลแรงขึ้น​พัดพาร่างของ​ ดญ.ยัน​ ซึ่งพยายามตะเกียกตะกายว่ายดำผุดดำโผล่เพื่อขึ้นฝั่ง​ แต่ก็ถูกกระแสน้ำพัดพาร่างหายไป​ ดญ.บี(นามสมมุติ)​เมื่อเห็นดังนั้นจึงว่ายตรงรี่เข้าไปจะช่วยเหลือเพื่อน​ ก็ถูกกระแสน้ำพัดพาร่างลงสู่วังน้ำวน​ ส่วนเด็กหญิงทราย(นามสมมุติ)​ที่โชคดีรอดพ้นเงื้อมมือมัจจุราชมาได้อย่างหวุดหวิด​ ได้พยายามตะเกียกตะกายว่ายขึ้นจฝั่ง​ ร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านและโทรแจ้ง​ตำรวจในเวลาต่อมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ การติดตามงมค้นหาร่างเด็กหญิงผู้เคราะห์ร้ายทั้ง​ 2​ รายที่ตกเป็นเหยื่อถูกกระแสน้ำในฝายทดน้ำกลืนกินชีวิตครั้งนี้​ เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิ​ 5​ หน่วยงานไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ​ มูลนิธิพิทักกาญจน์​ มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์ (กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์(นครปฐม)​ มูลนิธิเสมอกัน(สุพรรณบุรี)​ ต้องใช้เวลาปักหลักติดตามค้นหา​ 2​ เป้าหมายที่จมน้ำอยู่นานถึง​ 2​ วัน​ 2​ คืน​

จนกระทั่งเมื่อเวลา​ 18.50  น.ของวันที่​ 13​ พ.ค.64​ ที่ผ่านมา​ เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำของมูลนิธิต่างๆ​ ไม่ว่าจะเป็นมูลนิธิสมาคมบ่อพลอยร่วมใจ​ มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์​ มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​ มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์(นครปฐม)​ และมูลนิธิเสมอกัน​(สุพรรณบุรี)​ ต่างสนธิกำลังปักหลักแยกย้ายการทำการงมค้นหาร่างจนกระทั่งพบศพ​ถูกกระแสน้ำพัดพาร่างไปไกลจากจุดเกิดเหตุประมาณ​ 5​ กม. โดยพบท่อนขาลอยโผล่อยู่ใต้น้ำ​ที่บริเวณใต้สะพานตามา​ หมู่​ 2​ ต.หลุมรัง​ อ.บ่อพลอยฯ จึงนำศพขึ้นมาไว้บนฝั่งพร้อมประสาน​ ร.ต.อ.สนิท​ สิงห์สกุล​ รองสารวัตรสอบสวน​ สภ.บ่อพลอยฯ​ พร้อมแพทย์เวร​ เดินทางมาร่วมชันสูตรพลิกศพ​พบว่า​ ตามร่างกายไม่มีบาดแผล​ หรือร่องรอยการถูกทำร้ายสอบถามญาติไม่มีใครติดใจสงสัยสาเหตุการตาย​ จึงมอบศพให้ญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป