พระอาจารย์แดง เกจิดังเมืองกรุงเก่า เจ้าของฉายานิ้วมหามงคล เข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก หลังอยุธยา เดินหน้าฉีดวัคซีน เป็นวันที่ 3 ซึ่งได้รับการตอบรับให้ความสนใจจำนวนมาก

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ที่ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระครูเกษมจันทวิมล ( พระอาจารย์แดง) เกจิชื่อดัง เมืองกรุงเก่า เจ้าอาวาสวัดป้อมรามัญ เจ้าของฉายานิ้วมหามงคล เดินทางเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรก หลังจากที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเดินหน้าการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนที่ลงทะเบียนหมอพร้อมและลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ในวันนี้เป็นวันที่ 3 รวมถึงกลุ่มผู้มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง โดยวันนี้มี พันจ่าอากาศเอกสุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา ก็เดินทางมาเข้ารับการฉีดวัคซีนพร้อมๆกัน โดยมี นายแพทย์ธัชชัย บำรุงสงฆ์ รอง ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาให้การต้อนรับและตรวจเยี่ยมผู้มารับวัคซีนในวันนี้

ซึ่ง การบริหารจัดการกระจายฉีดวัคซีนโควิด รอบแรก ในวันที่ 7 – 11 มิถุนายน 2564 ซึ่งได้รับวัคซีน 2 ตัว คือ ASTRAZENECA จำนวน 6,500 โด๊ส ฉีด 6,500 คน และ Sinovac จำนวน 3,920 โดส ฉีด 1,960 คน ซึ่งจะฉีดให้กับกลุ่มที่ลงทะเบียน “ หมอพร้อม ” และลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จะกระจายการฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลประจำอำเภอทั้ง 16 อำเภอ และโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง โดยโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด จำนวน 3,409 คน โดยในวันแรกจะฉีด 655 คน ซึ่งแบ่งการฉีดเป็น 6 รอบ ๆ ละ 1 ชั่วโมง ๆ ละ 100 คน โดยได้เน้นย้ำให้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาฉีดวัคซีนไม่ให้เกิดความแออัดและเป็นไปตามมาตรการของการควบคุมโรค
 

พระครูเกษมจันทวิมล ( พระอาจารย์แดง ) กล่าวว่า การฉีดวัคซีนไม่ได้เจ็บอย่างที่คิด พยาบาลฉีดวัคซีนมือเบาแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งหมอและทีมแพทย์จะค่อยดูแลอย่างดี เมื่อเสร็จแล้วทางทีมแพทย์ให้นั่งพักรอสักครึ่งชั่วโมง ซึ่งไม่รู้สึกว่ามีอาการใดๆ  แต่ก่อนที่จะมาฉีด ก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยนอน พยายามกินน้ำไว้เยอะ   พักผ่อนมากๆ  คิดว่าวัคซีนเหล่านี้  ได้ผ่านการทดสอบจากห้องวิจัยคณะแพทย์ WHO ให้การรับรอง มั่นใจว่ามีความปลอดภัยเพียงพอ ทั้งนี้พระสงฆ์เป็นอีกกลุ่มที่พบปะกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ก็ขอเชิญชวนพระสงฆ์ ออกมารับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนการสร้างภูมิคุ้มกัน และจะเป็นประโยชน์ในการป้องกันตัวเอง และป้องกันสังคมรอบข้างให้ห่างไกลจากโรคโควิด-19 เพื่อประเทศจะได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว