ภูมิภาค
รอง ผบช.ภ.3 เดินหน้าโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด สร้างครอบครัวสีขาว
วันจันทร์ ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 14.31 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา จัดโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยพล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข. ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้นโยบายการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ซึ่งพล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับนโยบายวิสัยทัศน์การแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ตร.ภาค 3 มอบหมายให้พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 หัวหน้าการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 ( หน.ปส.ภ.3) ดำเนินการขับเคลื่อนโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา , ชัยภูมิ , บุรีรัมย์ , สุรินทร์ , ศรีสะเกษ , อุบลราชธานี , อำนาจเจริญ และ ยโสธร โดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ลาวและกัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ตามวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้เกิดกระบวนการป้องกัน แก้ไข และการบำบัดยาเสพติด โดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน รวมถึงสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน จัดโครงการดำเนินงานชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ
.jpeg)
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภาค 3 หัวหน้าการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตำรวจภูธรภาค 3 ( หน.ปส.ภ.3) กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการชุมชนยั่งยืนเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติด แบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ดำเนินการเป็นภาคแรกของประเทศตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพัฒนาและดำเนินงานชุมชนยั่งยืน ในการแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ และการบำบัดผู้ยาเสพติดโดยการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน และเพื่อสร้างรูปแบบการดำเนินงานชุมชนเข้มแข็งในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง เพื่อแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติที่จะช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดให้ลด ละ และเลิกยาเสพติดได้ โดยใช้กระบวนการบำบัดโดยชุมชนแบบ CBTx (community based treatment *extreme) และมีการสร้างระบบการบริหารให้ผู้นำชุมชนมีความเข้มแข็งในการติดตามผู้ที่เลิกใช้ยาเสพติด และการสร้างภาคีเครือข่ายในชุมชนโดยมีตำรวจ ฝ่ายปกครอง เป็นพี่เลี้ยงสนับสนุน เพื่อส่งมอบภารกิจการดูแลชุมชนให้มั่นคงปราศจากยาเสพติด ด้วยเหตุที่พบว่าปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดที่ผ่านมาแม้จะทำการกวาดล้างจับกุมอย่างเข้มข้นมาตลอด แต่ปริมาณยาเสพติด และผู้ค้ายาเสพติดกลับเพิ่มมากขึ้น การป้องกันไม่ให้มีการค้า คือการช่วยเหลือผู้เสพให้เลิกใช้ยาเสพติด เมื่อเลิกเสพ ก็เลิกซื้อ เมื่อ ไม่มีผู้ซื้อก็จะไม่มีผู้ขาย บำบัดดีกว่าจับกุม
.jpeg)
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ. 3 กล่าวอีกว่า โครงการชุมชนยั่งยืนนี้ มีการบูรณการการทำงานทุกภาคส่วน ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจ กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้นำทางศาสนา ปราชญ์ชาวบ้าน และประชาชน ร่วมกันค้นหาผู้เสพยาเสพติดในชุมชน โดยลงสำรวจตรวจทุกคนทุกครัวเรือน ( X-ray 100% ) เมื่อได้ผู้เสพออกมาแล้ว ตำรวจ สาธารณสุข มหาดไทย และประชาชน ในชุมชน จะร่วมกันบำบัดในชุมชนนั้นเลย โดยมีคำสั่งจากนายอำเภอ ให้เปิด CBTx ในชุมชน โดยมีการบำบัดทั้งทางการแพทย์ ทางจิตวิทยา ศาสนบำบัด วินัยบำบัด จิตอาสาบำบัด อาชีวบำบัด และยังมีครอบครัวพร้อมพลังชุมชนให้กำลังใจและติดตามพฤติกรรมผู้บำบัดอย่างใกล้ชิด มีการให้โอกาสทางการศึกษา การฝึกอาชีพ การหางาน เสริมสร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เลิกยาเสพติด ได้มีชีวิตและสภาพครอบครัวที่ดีขึ้นไม่กลับไปสู่วังวนยาเสพติดได้อย่างเด็ดขาด
.jpeg)
ทั้งนี้ก่อนดำเนินโครงการได้มีการฝึกอบรมวิทยากรต้นแบบให้แก่ตัวแทนจากทุกสถานีตำรวจและมีผู้แทนสำนักงาน ปปส. ฝ่ายปกครอง สาธารณสุขร่วมสัมมนาด้วย จากนั้น ตร.ภ.3 ได้เริ่มดำเนินโครงการฯ ด้วยการเข้าประสานการปฏิบัติกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ สาธารณสุข และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำหมู่บ้าน สืบสภาพชุมชน คัดเลือกหมู่บ้านเป้าหมายที่มีปัญหาการแพร่ระบาดสูงสุด โครงการนี้ขับเคลื่อนพร้อมกันทั้ง 236 สถานี 8 จังหวัดอีสานใต้ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.64 มีประชากรในชุมชนเป้าหมายรวม รวม 165,065 คน ขณะนี้ค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดได้ ได้ 3,724 คน และอยู่ในระหว่างCBTx ตลอดระยะเวลาการดำเนินโครงการได้รับผลตอบรับดีจากคนในชุมชนและพร้อมที่จะต่อยอดดำเนินโรงการต่อไป
จากการประเมิลผลคาดว่าจะมีผู้เลิกใช้ยาเสพติดถึงประมาณร้อยละ 80 หากเลิกได้ 3,000 คน ใน 1 ปีจะลดกำลังซื้อไป 1,000,000 เม็ด คิดเป็นเงินที่ไม่ต้องสูญไปให้ผู้ค้า 100 ล้านบาท หากทำได้ทุกหมู่บ้านที่เหลืออีก 16,632 หมู่บ้าน จะเป็นเงินถึง 7,000 ล้านบาท อันจะนำมาซึ่งการลดปัญหายาเสพติดในครอบครัว สังคมและชุมชน ได้อย่างยั่งยืน ภัยอาชญากรรมอื่น ๆ ที่ส่วนใหญ่มีต้นตอมาจากยาเสพติดจะไม่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน พลตำรวจตรีคีรีศักดิ์ฯ กล่าว
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ยิงสนั่นกลางสนามตะกร้อ เด็ก 17 กระสุนเจาะอกสาหัส 5 พ.ค. 2568
- เช็คด่วน! พ่อเมืองประจวบฯ เป็นประธานออกรางวัลใหญ่สลากกาชาดการกุศล รถยนต์ 3 คัน 5 พ.ค. 2568
- “นครศรีฯโมเดล” ลุยกวาดล้างยา7คดี รวบ 6 ผู้ต้องหา ยึดยาบ้า 2 หมื่นเม็ด 5 พ.ค. 2568
- กองกำลังผาเมืองตรึงเข้มชายแดน หลังทหารลาวปะทะกองกำลังติดอาวุธ คาดปมแก้แค้นยึดยาบ้า 20 ล้านเม็ด 5 พ.ค. 2568
- "สพม.ขอนแก่น"เปิดการฝึกอบรมวิชาผู้กำกับลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ขั้นความรู้ชั้นสูง รุ่นที่ 1/2568 5 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
เตือนภัย! อ้างเป็นสื่อดังตระเวนขอบริจาคหมื่นแลกเหรียญที่ระลึก 21:14 น.
- “พิชัย” ลุยร้อยเอ็ด ติดตามโครงการพักหนี้ระยะ 2 หนุนเกษตรกรฟื้นฟูอาชีพ 21:04 น.
- บึ้มสนั่น! ถังเคมี 200 ลิตรระเบิด เจ้าของโรงสีอาการโคม่า 20:57 น.
- รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีเทศน์มหาชาติ พระเวสสันดรชาดก เฉลิมพระเกียรติกรมสมเด็จพระเทพฯ 20:20 น.
- สุดคุ้ม! ร้านนักเรียนลานสักใจป้ำ ปักชื่อ-ตราโรงเรียนฟรีไม่คิดเงินเพิ่ม 20:08 น.