วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 01:27 น.

ภูมิภาค

พึ่งพาตนเองยุคโควิด! กลุ่มวิสาหกิจชุมชน แปรรูปหน่อไม้ขายสร้างรายได้

วันอังคาร ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 14.43 น.
วันที่ 29 มิ.ย.64  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้ง ที่บ้านเลขที่ 1/5 หมู่ 11 บ้านหนองแสง ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ของนางจุฬารัตน์ ไชยนิสงค์ อายุ 57 ปี (ป้าจ่อย) ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม "วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ปลูกไผ่" ได้จัดตั้งกลุ่มขึ้นมา มีสมาชิกทั้งหมดตอนนี้ 35 คน เพื่อผลิต – จำหน่ายแปรรูป “หน่อไม้”  ทั้งอบแห้ง ,หน่อไม้ต้ม และ หน่อไม้เปรี้ยว ช่วยสร้างรายได้แก่ชุมชน  
 
แต่ปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาสนับสนุน ก็เลยจัดตั้งกลุ่มกันขึ้นมา เพื่อให้สมาชิกได้นำผลิตผลจากหน่อไม้ของแต่ละคน  นำมาขายและยังรับซื้อจากข้างนอกบ้างเพื่อนำมาแปรรูป อาศัยภูมิปัญญาการถนอมอาหารแบบพื้นบ้าน! เริ่มตั้งแต่รับซื้อหน่อไม้ ทั้งหน่อไม้ป่า,ไผ่รวก,ไผ่เลี้ยงนำมาปลอกเปลือก แล้วนำมาต้มในน้ำที่เดือด จากนั้นก็นำมาสางที่ไม้ตีตะปูหลายอันถี่ๆ หั่นแล้วก็กรีด เพื่อจะให้ได้หน่อไม้มีเส้นฝอยๆ เพื่อผู้บริโภคจะได้สะดวกเวลาบริโภค นำไปต้ม –ผัด –แกง   
 
 
จากนั้นก็จะนำเส้นหน่อไม้ไปอบให้แห้งด้วยความร้อน 55 องศาเซลเซียส ได้ที่ก็จะนำมาใส่ถุงแล้วก็ชั่งตามขนาด จากนั้นก็จะนำไปซีนติดสติ๊กเกอร์ยี่ห่อ "ไผ่หวาน" ใส่ถุงบรรจุถุงใหญ่ถุงละ 60 บาท ส่วนถุงเล็ก 40 บาท จะเก็บไว้รับประทานได้ประมาณ 6 เดือน และยังมีหน่อไม้ต้มแบบซีลบรรจุไว้ 3 กิโลกัม ต่อถุงๆละ 120 บาท จะเก็บไว้ได้นาน 3 เดือน ส่วนที่ไม่ได้ซีลทางกลุ่มก็มีขายโลลๆ30 บาท บรรจุ 4 กิโลกรัม 120 บาท ส่วนหน่อไม้ดอง จำหน่ายในราคาขวดละ 10 บาท การรับซื้อ – ราคาขาย รับซื้อหน่อไม้สดในราคา กก.ละ 15 - 35 บาท โดยอ้างอิงจากราคากลาง ณ ช่วงเวลานั้น ๆตลาดหลักที่ส่งขายเป็นตลาดใหญ่ตามภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ตลาดสี่มุมเมือง หรือ จำหน่ายเป็นของฝากตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ผู้คนนิยมบริโภค พืชผักตามวิถีธรรมชาติ
 
 
สำหรับการผลิตหน่อไม้ดอง หรือหน่อไม้เปรี้ยว นำเนื้อของหน่อไม้ส่วนโคน ที่แข็งกว่าส่วนยอดอ่อน (หน่อต้มใช้แค่ส่วนยอดอ่อน)  จึงมีการนำส่วนโคน แปรรูปเป็นหน่อไม้เปรี้ยว หรือหน่อไม้ดอง วิธีทำเริ่มจากหั่นแยกส่วนโคน ออกจากยอดอ่อนนำส่วนที่แยกออกไปล้างน้ำให้สะอาด นำไปฝานให้บางเท่า ๆ กันนำไปใส่ถังหมักใส่น้ำเกลือตามลงไปพอท่วมหน่อหมักทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะมีรสเปรี้ยวตามที่ต้องการนำออกจากถัง และใส่บรรจุภัณฑ์ เพื่อนำไปจัดจำหน่ายต่อไป  
 
จากการสอบถามนาย พงศนาถ ทองเกิด เล่าให้ฟังว่าที่คิดทำผลิตภัณฑ์อบแห้งขึ้นมาก็เพื่อว่าจะได้เก็บไว้ได้นานๆจะมีน้ำหนักเบา การขนส่งก็จะสะดวกมากขึ้น คุณค่าทางอาหารก็ยังคงเหมือนเดิมอีกด้วย ติดต่อคุณอาร์ม 0993952563 ได้ทุกวัน
 

หน้าแรก » ภูมิภาค