วันที่ 14 ก.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์รายงานว่า หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้มีการปิดแคมป์คนงานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลรวมไปถึงพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มมาตรการปิดแคมป์ตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2564  ที่ผ่านมา  ส่งผลให้แรงงานก่อสร้างชาวกัมพูชา แห่เดินทางกลับประเทศกัมพูชา โดยใช้จุดผ่านแดน 3 แห่ง ซึ่งด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เป็น 1 ใน 3 แห่งด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ยังเปิดให้ชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศได้ จนถึงขณะนี้ยังมีแรงงานชาวกัมพูชา เดินทางกลับประเทศเป็นจำนวนมาก พบว่า ตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.64 จนถึงวันนี้ 14 ก.ค.64 มีแรงงานชาวกัมพูชาเดินทางกลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม แล้วมากกว่า 2,000 คน

 

 

มีรายงานว่า มีเพจที่เกี่ยวข้องกับระบบสารธารณสุขของ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีพื้นที่เขตแดนอยู่ติดกับพื้นที่  จ.สุรินทร์ มีการโพสต์ข้อความและรูปภาพของแรงงานชาวกัมพูชาที่เดินทางกลับผ่านด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.64 ที่ผ่านมา โดยระบุข้อมูลว่า พบแรงงานชาวกัมพูชาที่กลับประเทศผ่านจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด จำนวน 239 ราย หายป่วย 58 ราย

 

โดยการติดเชื้อโควิด-19 จากไทยของแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากดังกล่าว มีความเสี่ยงของการแพร่เชื้อจากต้นทางที่แรงงานกัมพูชาทำงาน และระหว่างเดินทางมายัง จุดรวบรวมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่ สนง.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์  ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ ด่าน ตม.สุรินทร์ ติดเชื้อโควิด-19 และจำนวน 8 นาย อยู่ในช่วงการรักษาและรักษาหายแล้วบางราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ตม.สุรินทร์  ได้มีมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มข้น มีการจำกัดพื้นที่แบ่งแยกโซนอย่างมิดชิด ให้เป็นจุดรวบรวมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมือง โดยไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปอย่างเด็ดขาดโดยเจ้าหน้าที่มีการสวมชุดป้องกันการติดเชื้ออย่างมิดชิด และมีระบบคัดกรอง ตรวจหาเชื้อและซักประวัติอย่างเข้มงวด ทั้งจัดตู้น้ำยาฆ่าเชื้อ ฉีดพ่นแอลกอฮอล์สิ่งของสัมภาระต่างๆของชาวกัมพูชา และไม่อนุญาตให้ชาวกัมพูชาออกนอกพื้นที่ ตลอดไปจนถึงการผลักดันออกนอกประเทศจนสำเร็จ ด้วยรถยนต์กระบะ รถบรรทุกหกล้อและรถบัส

 

 

ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตม.กาบเชิง ฝากประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือให้นายจ้างนำส่งแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาที่จุดรวบรวมแรงงานต่างด้าว ข้าง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ ที่ อ.กาบเชิง  เพียงแห่งเดียวเท่านั้น  รวมถึงประชาชนยังคงสามารถเดินทางมาติดต่อราชการได้ตามปกติ เพราะมีการแบ่งส่วนพื้นที่พักคอยและห้องน้ำของชาวกัมพูชา ออกจากเจ้าหน้าที่และผู้ที่มาติดต่อราชการทั่วไป ไม่ให้ใช้ร่วมกันอย่างเป็นสัดส่วน

ทั้งนี้ แม้จะมีมาตรการประกาศ ยกระดับมาตรการพื้นที่สีแดงเข้มใน 10 จังหวัด มีกรุงเทพฯและปริมณฑลบวก 4 จังหวัดภาคใต้ “ห้ามออกนอกเคหสถาน” ตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. เว้นแต่มีความจำเป็น ล็อกดาวน์ 6 จว.แดงเข้ม ห้างสรรพสินค้า เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาร์เกต แผนกยา อาหาร ร้านสะดวกซื้อ ร้านโต้รุ่ง ปิด 2 ทุ่ม สั่งปิดร้านนวด สปา สถานเสริมความงาม ห้ามรวมกลุ่มกันเกิน 5 คน ทุกมาตรการเริ่ม 12 ก.ค. ส่วนการจำกัดการเดินทางในพื้นที่6 จังหวัด เริ่มวันที่ 10 ก.ค. ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการ ฝ่าฝืนมีโทษ

 

มาตรการดังกล่าวทำให้แรงงานก่อสร้างต่างด้าว ที่อยู่ในจังหวัดพื้นที่สีแดง จะกลับประเทศไม่ได้ แต่พบว่ายังคงมีแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดรอบนอก ทยอยเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่องวันละ 100-150 อยู่เช่นเดิม