วันพุธ ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:15 น.

ภูมิภาค

หัวขโมยย่องลักต้นบอนสีน้องสาว สจ.ชุมพรคนดัง ตร.รู้ตัวแล้วเตรียมเรียกตัวสอบ

วันพฤหัสบดี ที่ 02 กันยายน พ.ศ. 2564, 16.16 น.

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 2 ก.ย.64 นางพรทิพย์ ทองคำ  อายุ 58 ปี อาชีพขายต้นไม้บอนสีและผลไม้ตามฤดูกาล  อยู่บ้านเลขที่ 9/2 หมู่ 4 (บ้านนาคราม) ตำบลนาโพธิ์  อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นน้องสาวของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร (สจ.)เขตสวี  และน.ส.ธิดารัตน์ หรือส้มโอ ทองคำ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกสาว ได้เข้าพบ พ.ต.ท.สายันต์  จันทมาศ  รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี เพื่อนำเอกสารยื่นเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีติดตามตัวคนร้าย  หลังก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน ได้ถูกหัวขโมยย่องเข้าลักต้นไม้ประดับ บอนสี “ชายชล” ถึงในรั้วบ้าน แต่สามารถติดตามกลับมาได้  โดยมีนายชาติชาย  บุญมี  อดีตนายก อบต.ทุ่งระยะ อ.สวี จ.ชุมพร และน.ส.พสุพร หรือขิม แย้มสกุล อายุ 29 ปี ร่วมเดินทางมาเป็นพยานต่อพนักงานสอบสวนด้วย

 


          

โดยน.ส.ธิดารัตน์  หรือส้มโอ ผู้เสียหาย  เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า  เมื่อวานเช้า(วันที่ 1 ก.ย.) ก่อนแม่จะออกมาเปิดร้านได้เข้าไปดูพันธุ์ต้นไม้ประดับที่เพาะเอาไว้จำหน่ายบริเวณภายในรั้วหน้าบ้าน ปรากฏว่าได้หายไป 1 ต้นคือ “ต้นบอนสี ชายชล” สูงประมาณ 12-15 ซม.ซึ่งเป็นต้นที่รักมาก ก่อนหายไปก็ยังยืนดูและพูดถึงเสมอ เพราะมีความสวยงามเฉพาะตัว หายไปรู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก จึงพยายามสืบเสาะหายเบาะแสก่อนเดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สวี เพื่อติดตามหาคนร้ายที่ขโมยไป

 


         

ต่อมาได้เห็นผู้ให้บัญชีเฟสบุ๊กของหญิงสาวรายหนึ่งโพสภาพปิดการขายต้น “บอนสีชายชล” ซึ่งมีลักษณะเหมือนของตนเองที่หายไป  เลยนำรูปมาเปรียบเทียบกันปรากฎว่าเหมือนกันเกือบ 100 เปอร์เซนต์ จึงติดต่อสอบถามคนโพสได้ความเบื้องต้นว่ามีคนที่รู้จักและเป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊กมาให้ติดต่อให้ตนขายให้ และมีคนซื้อไปแล้ว  จากเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้สรุปข้อมูลที่ได้มาเบื้องต้น รู้ตัวแล้วว่าหัวขโมยรายนี้คือใครและสามารถติดตามของกลางกลับมาได้แล้ว จึงรู้ว่าคนร้ายที่ขโมยต้นไม้ไปนั้นขโมยไป 2 ต้น ไม่ใช่ต้นเดียว  ทั้งนี้ที่ตนออกมาเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวเพราะมีเหตุลักต้นไม้บอนสีซึ่งเป็นที่นิยมมีราคาแพง ในพื้นที่ถูกขโมยหายกันบ่อย จึงฝากแจ้งเตือนด้วย

 


          

ด้านน.ส.พสุพร หรือขิม แม่ค้าที่เป็นคนกลางในการติดต่อขายต้นบอนสีที่ถูกขโมย  ซึ่งเดินทางมาเป็นพยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน บอกว่าได้มีเพื่อนในเฟสฯชื่อบิว ทักมาหาเพื่อสอบถามว่า ต้นนี้คือต้นอะไร ตนจึงบอกไปว่า “ต้นชายชล”มีราคาเท่าไหร่  ตนตอบไปว่าถ้าอยากขายได้ง่ายต้องไม่แพง ให้ซื้อง่ายขายคล่อง พอดีมี อดีตนายก อบต.มาหาซื้อของของตน  เพราะตนขายสินค้าหลายชนิดผ่านเฟสบุ๊ก จึงแนะนำว่ามี “ต้นบอนสีชายชล”ขาย และนัดให้หญิงสาวคนดังกล่าวชื่อว่า บิว เอาต้นบอนสีมาให้ดู โดยมาด้วยกัน 3 คน เด็กเล็ก 1 คน  ขับรถกระบะ อีซูซุ สี่ประตู สีขาว และตกลงซื้อขายกันเองพร้อมถ่ายภาพและโพสลงเฟสฯเพื่อปิดการขาย ซึ่งตนเพิ่งมารู้ภายหลังว่าถูกขโมยมา

 


       

ส่วนอดีต นายก อบต.ทุ่งระยะ  เผยว่า ตนไปหาซื้อของตามปกติและชื่นชอบต้นบอนสีด้วย แม่ค้าจึงเสนอขายต้นบอนสีชายชล ได้เห็นรูปเห็นสวยดีจึงสนใจโดยที่แม่ค้าชื่อขิมได้โทรศัพท์นัดให้คนขายเอาต้นไม้มาให้ จึงซื้อไป 2 ต้น ในราคา 4000 บาท ตนมารู้อีกทีว่าต้นไม้ดังกล่าวเป็นขโมยมาจึงเดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจยินดีให้ความร่วมมือและเป็นพยานในคดีด้วย พร้อมทั้งอยากเจอหน้าคนขายให้อีกครั้ง

 


       

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างสอบปากคำพยานและรวบรวมหลักฐาน พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไปติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ แต่เชื่อว่าเร็วๆนี้สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แน่นอน

หน้าแรก » ภูมิภาค