วันที่ 5 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ช่วงหน้าฝนนี้ พบเกษตรกรชาวนาข้าว ชาวบ้านหว้าน ติดถนน 2 ฝั่งสายท่องเที่ยว (บ้านท่าโพธิ์ – บ้านท่าเรือ) หมู่ 6 ต.บุฝ้าย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ที่จะขึ้นไปสู่แหล่งน้ำตกต่างๆ ของ อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี  บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มรดกโลก พื้นที่ที่มีน้ำตกตามธรรมชาติมากที่สุดในประเทศไทย อาทิ น้ำตกตะคร้อ,น้ำตกฟองสบู่,น้ำตกสลักได,น้ำส้มป่อย ชาวนาทั้งหมู่บ้านแห่งนี้   นอกจากทำนาแล้ว ในผืนนาข้าวของพวกเขา ต่างพากันหันมาปลูกโสนต้นขาย เป็นล่ำเป็นสัน พร้อมๆ กับการทำนาปี  ในพื้นที่เดียวกันใช้พื้นที่คุ้มค่า ซึ่งก่อนถึงฤดูเก็บเกี่ยวข้าว โสนต้นสามารถตัดขายให้พ่อค้าที่มาซื้อถึงที่ รับเงินครั้งละเป็นแสนบาท 

 

 

ซึ่งเกษตรกรชาวนาได้ ใช้พื้นที่นาข้าวอย่างคุ้มค่า โดยได้ทั้งทำนาปี พร้อมๆ กับปลูกต้นโสนในนาข้าวในคราวเดียวกัน โดยในขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งตัดต้นโสนส่งขายให้กับพ่อค้าที่มารับซื้อต้นโสนเพื่อนำไปทำดอกไม้แห้ง เช่นดอกมะลิ ดอกไม้จันทน์ โดยพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ จึงได้แวะพูดคุยกับเกษตรกรลุงหยุด คำวิชัย เกษตรกรที่ปลูกต้นโสนขาย  ขอทราบถึงรายละเอียดบนเส้นทางการทำมาหากิน กล่าวว่า ก่อนหน้ามีอาชีพหลักทำนาปี  แต่ภายหลังข้าวราคาตกต่ำ จึงได้ทำนาควบคู่กับการปลูกต้นโสนต้นในนาข้าว ซึ่งโสนต้น นั้นเป็นพืชล้มลุก ใบคล้ายคลึงกับโสนดอก ลำต้นจะเบา สามารถลอยน้ำหรือใช้นำมาเป็นทุ่นลอยน้ำได้ดีเมื่อแห้งแล้ว ซึ่งผลปรากฏสร้างรายได้ดีกว่าทำนา ก็เลยทำคู่กันมา โดยหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วพอมีเงินเก็บไว้ลงทุนต่อไปหลายหมื่นบาท ไม่ต้องเป็นหนี้สิน และสามารถส่งเสียลูกๆ เล่าเรียนต่อไปไม่ขัดสน  

 

 

ส่วนการทำนาข้าว ได้ข้าวราคาเกวียนละไม่ถึงหมื่นบาท ชาวนาที่นี่ส่วนใหญ่ทั้งหมู่บ้าน จึงหันมาปลูกโสนต้น ควบคู่ในนาข้าวพร้อมกันดังกล่าว   โดยจะเก็บเกี่ยวตัดโสนต้น ในนาข้าวขายก่อน แล้วค่อยเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวอีก 3 เดือนถัดไป การปลูกต้นโสนขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เกษตรกรที่มีพื้นที่นาราบลุ่ม จะไถหว่านเมล็ดโสนกับเมล็ดข้าวพร้อมกัน ประมาณช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี หลังจากไถหว่านในนาข้าว พร้อมกันนั้น ต้นโสนจะเจริญเติบโตโดยธรรมชาติเร็วกว่าต้นข้าว และสูงประมาณ2เมตร  

 

โดยต้นโสนที่สมบูรณ์ดีจะมีลำต้นใหญ่เท่า 2 นิ้ว เกษตรกรจะตัดต้นโสนเดือนสิงหาคม ถึงกลางเดือนกันยายน ส่งขายได้แล้ว ต้นโสนพืชที่ชอบน้ำลึกน้ำลึกมากต้นก็จะขยายสูงขึ้นไปด้วย โดยวิธีการตัดต้นโสนจะใช้มีดปลายแหลมหรือเคียวเกี่ยวต้นโสนที่อยู่ในน้ำ จากนั้นก็จะตัดส่วนปลายทิ้งให้เหลือบริเวณช่วงกลางลำต้นไปจนถึงโคนต้น วัดด้วยสายตาให้มีความยาวเหลือประมาณ 1.50 ซม. 

 

 

ลุงหยุด เล่าต่อไปว่า ตนเองปลูกต้นโสนในนาข้าว 10 ไร่ การดูแล ใส่ปุ๋ย 2 ครั้ง จากนั้นเพียงรอเก็บเกี่ยวต้นโสนส่งขายให้กับพ่อค้าคนกลางพี่มารับซื้อถึงบ้าน การตัดต้นโสนส่งขายวิธีการง่ายๆ ใช้มีดปลายแหลมหรือเคียวลงไปตัดหรือเกี่ยวในน้ำโดยเลือกเอาต้นใหญ่ๆก่อน แล้วรวมกันลากขึ้นมาจากน้ำตัดปลายทิ้ง จากนั้นก็จะจ้างคนมาล้างต้นโสนด้วยการขัดเกลาคราบตะไคร่ รากและกิ่งที่แตกข้างลำต้นออก คิดค่าจ้างร้อยละ20บาทแล้วนำขึ้นจากน้ำมาตากแดดหนึ่งแดด ให้ต้นโสนแล้วใช้เชือกมัดเป็นมัด มัดละ 50 ต้นรอขายได้เลย ในปีนี้ราคาซื้อขายต้นโสนซื้อ-ขายต้นละ 2.50 สตางค์ต้นใหญ่ต้นละ3บาท    ตนเองขายได้ราคาต้นละ3บาท เป็นต้นโสนต้นใหญ่ ซึ่งปีที่แล้วขายต้นโสนได้ 5 หมื่นบาท ปีนี้คาดว่าจะได้ 6 หมื่นกว่าบาท ปีนี้ราคาดีกว่าทุกปีแม้สถานการณ์โควิด -19 ก็ตาม