วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 13:57 น.

ภูมิภาค

รู้ตัวแล้วแก๊งทมิฬไล่ยิง "หมูป่าโทน" ขวัญใจชาวบ้านดับ เร่งล่าตัวดำเนินคดี

วันเสาร์ ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2564, 16.47 น.
กรณีมีการเผยแพร่คลิป กลุ่มบุคคลประมาณ 4-5 คนพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว จำนวน 4 กระบอกมาปิดล้อมไล่ยิงหมูป่าโทนอายุประมาณ 9 ปี หนักประมาณ 120 กิโลกรัม อาศัยอยู่บริเวณป่าชุมชน ม.4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นขวัญใจชุมชนบ้านห้วยน้ำทรัพย์ โดยกระสุนเข้าที่บริเวณระหว่างขาหน้าและต้นคอ 2 แผล วิ่งหนีตายเข้ามาขอความช่วยเหลือจากร้านค้าที่เคยให้อาหาร เจ้าของร้านจึงแจ้ง นายสมชาย รักษ์เดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 แจ้งอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีมาช่วยเหลือ เมื่อกู้ภัยมาถึงได้ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตหมูป่าโทน แต่ไม่รอด ตายเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ต้องนำซากไปฝังในป่าช้า ที่วัดบางบุตร  อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย. 64 ที่ผ่านมา
 
 
ล่าสุดวันที่ 11 ก.ย. 64 พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.พุนพิน สั่งการให้ ร.ต.อ.วุฒิชัย พืชผล รอง สวป.หัวหน้าป้อมหรือจุดบริการประชาชนบ้านลีเล็ดพร้อม ด.ต.สุริยา สุขขี เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ร้านค้า พบว่า กล้องวงจรปิดหลังร้านได้บันทึกภาพขณะที่นายสุทธิพร บุญชู เจ้าของร้านกำลังล้างรถอยู่หลังบ้าน จู่ ๆก็มีหมูป่าที่มีอาการบาดเจ็บวิ่งออกจากสวนปาล์มหลังบ้าน มาหมอบหลบซ่อนอยู่ข้างรถกระบะ ต่อมามีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน วิ่งตามมาพร้อมใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่หมูป่าทันทีอีก 1 นัด หมูป่าได้วิ่งหลบเข้าไปในร้านค้า กลุ่มชายฉกรรจ์ตามไปอีก แต่ถูกชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้ห้ามปรามไม่ให้ทำร้ายหมูตัวดังกล่าว กลุ่มชายฉกรรจ์แสดงความไม่พอใจแต่ก็ได้ล่าถอยออกไป
 
 
ในเบื้องต้นทางตำรวจทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว จะได้ออกหมายเรียกตัวมาดำเนินคดีตาม พรบ.อาวุธปืนต่อไป ส่วนการยิงหมูป่าตายนั้นจะต้องมีเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุต่อไป
 
ด้านนายสุทธิพรเจ้าของร้านบอกว่า ตอนเกิดเหตุตกใจกลัวมาก เพราะเขาตามมายิงหมูป่าที่ข้างรถยนต์ของตนเลย ด้วยความตกใจกลัวจะถูกลูกหลงเลยตะโกนสั่งลูกชายให้หลบอยู่แต่ภายในห้อง หลังกลุ่มก่อเหตุล่าถอยไปจึงมาช่วยหมูป่าแต่ก็ไม่รอด
 
 
นายสมชาย รักษ์เดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4  กล่าวว่า หมูป่าโทนตัวนี้เป็นขวัญใจชุมชนอาศัยอยู่ในป่าที่เป็นที่ดินมีเอกสารสิทธิ์มานานกว่า 9 ปี เดิมทีเป็นลูกหมูป่าของชาวบ้านที่นำมาเลี้ยงแต่ต่อมาได้หลุดจากคอก เจ้าของหาไม่เจอ แต่พอโตขึ้นจึงออกมาหากินชาวบ้านเห็นจึงมีมติของชุมชนว่าไม่ทำร้ายหรือยิง ปล่อยไว้ให้อยู่คู่กับชุมชนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านห้วยทรัพย์ จึงเป็นสัตว์ที่คุ้นเคยกับชาวบ้าน พอเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านทุกคนต่างสะเทือนใจเป็นอย่างมาก สำหรับกลุ่มคนที่มาไล่ยิงหมูป่าเป็นคนนอกพื้นที่ ที่เข้ามาถางป่าแล้วพบหมูป่าจึงรวมตัวมาปิดล้อมไล่ยิง จนหมูป่าวิ่งหนีตายมาขอความช่วยเหลือจากคนที่เคยให้อาหาร
 
 
ด้านนายสมศักดิ์ ธาลวัลย์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ตนสะเทือนใจมาก หากเป็นไปได้อยากให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษ เพราะทำรุนแรงเกินไป และคิดว่าหากเป็นไปได้อยากจะทำรูปปั้นเป็นอนุสรณ์ให้กับหมูป่าตัวนี้.

หน้าแรก » ภูมิภาค