ยายวัย 47 ปี วอนคนขับรถชนหลานซึ่งเป็นเด็กพิเศษวัย 8 ปี จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปต่อหน้า เจ้าตัวทำใจยังไม่ได้เพราะหลานน่าสงสารนอกจากจะพิการแล้วยังถูกรังแก วอนคนขับซึ่งรู้อยู่แกใจออกมารับผิดชอบ

วันที่ 13 ก.ย.64 น.ส.บุพผา มีพรหิริ อานยุ 47 ปี อยู่เลขที่ 9/1 หมู่ 4 ต.บ้านจาน อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่อ ว่าอยากให้ช่วยติดตามคนขับรถกระบะ ที่ชนหลานตัวเองวัย 8 ปี จนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไปต่อหน้า

ตรวจสอบเด็กชายที่เคราะห์ร้ายดังกล่าว คือ ด.ช.ธณากร น้องโฟร์ มีพรหิริ อายุ 8 ปี เป็นเด็กพิเศษ พิการทางสมอง ยายเด็กได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้าน และทำการฌาปนกิจศพในวันนี้ ที่วัดกุดเทา ต.บ้านจาน

บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยเฉพาะ น.ส.บุพผา ยายของเด็ก ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับเล่าทั้งน้ำตาว่า พ่อแม่น้องโฟร์ แยกทางกัน แล้วไปทำงานต่างจังหวัด ตนเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก

วันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา บนถนนสายบ้านจาน-หายโศก หลานไปกับตา เพื่อไปซื้อของที่ร้านค้าฝั่งตรงข้ามบ้าม ทันใดนั้นได้ยินเสียงโครม จึงหันไปดูเห็นคล้ายกับเด็กติดไปกับรถ จึงวิ่งออกมาดู พบว่าเป็นน้องโฟร์ กระเด็นออกมา

จากนั้นรถกระบะจำได้เป็นรถแบบแค็ป สีบรอนทอง มีคอกเหล็กอยู่ด้านหลัง บึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ยอมจอดหรือชะลอความเร็วรถแต่อย่างใด เมื่อวิ่งไปดูหลานพบสภาพร่างแหลกเหลว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

น.ส.บุพผา เล่าทั้งน้ำตาว่า หลานพิการทางสมอง พูดได้แค่คำสองคำ เช่น ตา-ยาย หรือคำว่า”เจ็บบ่”ชีวิตหลานน่าสงสารอยู่แล้ว แต่ตนก็รักเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก

แต่รับไม่ได้กับจิตใจของคนขับรถกระบะ ที่ชนแล้วไม่ยอมจอดลงมาดู ทั้งที่รู้ว่าชนเด็กเต็มๆ จึงอยากจะฝากถึงคนขับกระบะว่า ให้คิดถึงจิตใจผู้สูญเสียบ้าง ถ้าไปเกิดกับครอบครัวของตัวเองจะรู้สึกอย่างไร

นายวินิจ คำโฮง อายุ 48 ปี ตาเด็ก เล่าว่า วันนั้นพาหลานไปซื้อของร้านค้าซึ่งอยู่ตรงข้ามกันกับบ้าน จึงซื้อนมให้หลาน 1 กล่อง พอหลานได้นม ที่ตาซื้อให้ ดีใจวิ่งกลับไปบ้านทันที ทำให้รถกระบะซึ่งวิ่งมาด้วยความเร็ว ชนจนกระเด็นดังกล่าว