มหาวิทยาลัยขอนแก่น เตรียมจัดตั้งหน่วยงาน ที่สามารถผลิตผลงานวิจัย ผลิตนักศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต และอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 กำหนดแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์
 

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า จากผลสำรวจตลาดแรงงาน และภาคธุรกิจอุตสาหกรรมไทย จากโพลหลายสำนักตั้งแต่ปี 2560 ตำแหน่งงานด้านไอที นับเป็นอีกสาขาที่มีความต้องการสูง ในระดับต้นๆ มาโดยตลอด  ความต้องการของตลาดแรงงานในยุคThailand 4.0 กอปรกับนโยบายการพัฒนาประเทศของภาครัฐ นำมาสู่ แนวคิดการผลิตบุคลากรที่มีทักษะขั้นสูงด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่บัณฑิต

โจทย์สำคัญข้างต้นนี้ ดร.ณรงค์ชัย  อัครเศรณี นายกสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้ให้แนวทางต่อที่ประชุมสภามหาวิทยาลัย เมื่อเดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมาในการให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดตั้งหน่วยงาน ที่สามารถผลิตผลงานวิจัย ผลิตนักศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บัณฑิต และอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) สอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 จากครั้งนั้น ที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการกำหนดแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ เพื่อเสนอ “แพลตฟอร์มการจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์” และ “แผนพัฒนาความเป็นเลิศการจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์” ซึ่งคณะกรรมการได้มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง มีการจัดประชุมพิจารณาตั้งแต่เดือนเมษายน – สิงหาคม2564 กระทั่งเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2564 ในการประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ครั้งที่ 8/2564  แผนการจัดตั้ง และแผนพัฒนาความเป็นเลิศ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ผ่านมติการพิจาณาของกรรมการสภามหาวิทยาลัยในที่สุด

โดยสาระสำคัญจากประชุมได้ระบุถึง การจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ (College of Computing) มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นส่วนงานใหม่เทียบเท่าคณะวิชา ยกฐานะจากสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์  สามารถผลิตผลงานวิจัย ผลิตนักศึกษา พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สอดคล้องกับนโยบายทั้งในระดับมหาวิทยาลัย และ ทิศทางการพัฒนาของประเทศ  นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังให้หน่วยงานใหม่เป็นองค์กรที่มีอัตลักษณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของมหาวิทยาลัยอีกด้วย
 

โดยเรื่องดังกล่าว ศ.สมชาติ  โสภณรณฤทธิ์ ประธานกรรมการกำหนดแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ เปิดเผยว่า “วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์จะเป็นส่วนงานใหม่ที่มีความเฉพาะด้านในด้านการ Computing ขั้นสูง มีหลักสูตรที่สามารถผลิตบัณฑิตด้าน Computing หลักสูตรการเรียนรู้ตลอดชีวิตด้านเทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับบุคคลทุกช่วงวัย และ เป็นส่วนงานที่ผลิตผลงานด้านการวิจัยและนวัตกรรมด้านดิจิทัล Advanced Computing รวมถึงเป็นแหล่งการให้บริการด้านเทคโนโลยีดิจิทัลขั้นสูงระดับสากล มีการขยายความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล สามารถขยายขีดความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลออกสู่สังคมและเศรษฐกิจ นำไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ในระดับแนวหน้าของประเทศและเอเชีย

ศ.สมชาติ กล่าวด้วยว่าวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น จะเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนและส่งเสริมส่วนงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสตร์ด้านการคำนวณ และปัญญาประดิษฐ์ นำมาสู่การผสานหลักสูตรรวมทั้งความร่วมมือในการวิจัย สาขาวิชาที่หลากหลาย มีการก้าวข้ามสาขาวิชา ซึ่งเรามีเป้าหมายแน่วแน่ในการสร้างความเข้มแข็งในศาสตร์ด้านการคำนวณและปัญญาประดิษฐ์เป็นอันดับ 1 ใน 2 ของประเทศและ 1 ใน 200 ของเอเชียภายใน 5 ปี

ศ.สมชาติ กล่าวอีกว่า ในการดำเนินงานวิทยาลัยการคอมพิวเตอร์  มหาวิทยาลัยขอนแก่น กำหนดให้มี 2 สาขา คือ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (CS & IT – Computer Science & Information Technology) และ สาขาวิชาภูมิสารสนเทศศาสตร์ (GIS – Geographic Information System) มีหลักสูตรการสอน ระดับปริญญาตรี และ บัณฑิตศึกษา โดยมีการคงหลักสูตรเดิมพร้อมทั้งมีการเปิดหลักสูตรใหม่เป็นหลักสูตรประกาศนียบัตร (Non-Degree) เช่น หลักสูตรด้าน Data Science & AI (โครงการบัณฑิตพันธุ์ใหม่) หลักสูตรด้าน Data Engineering and Data Science, Computer Programming, Photogrammetry and Aerial Survey, Internet GIS for Spatial Data Analytics, IoT and Smart Farming

นอกจากนั้นแล้ววิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ จะมีการเปิดหลักสูตรสหวิทยาการ หรือสหสาขาวิชาชีพ (Multidisciplinary) อาทิ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต ด้าน Digital Entrepreneurship เป็นความร่วมมือกับคณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น  หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต ด้าน Digital Governance เป็นความร่วมมือกับวิทยาลัยการปกครองท้องถิ่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา ด้าน Smart Cities เป็นความร่วมมือกับ 4 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

"มาถึงวันนี้ วิทยาลัยการคอมพิวเตอร์ นับเป็นหน่วยงานใหม่สุดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนามหาวิทยาลัย ด้านการจัดการเรียนการสอนตามความต้องการของผู้เรียน และความต้องการของตลาดงาน ซึ่งโจทย์ที่ท้าทายครั้งนี้ เหลือเพียงขั้นตอนประกาศในราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น"ศ.สมชาติ กล่าว.