วันศุกร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 09:46 น.

ภูมิภาค

"พระวิชัย มุนี" เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ เทศนารู้คุณบิดา มารดา ประเทศชาติ เป็นสำคัญ

วันเสาร์ ที่ 06 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 16.34 น.
วันที่ 6 พ.ย.64 สนธยา จะพา พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ไปที่วัดสำราญนิเวศ  ต.บุ่ง อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พระอารามหลวง  ทุกวันจะมีพุทธศาสกนิชน ญาติโยม เดินทางเข้ามาทำบุญ  ทำทาน สร้างกุศล และกราบขอพรฟังธรรมเทศนาจากเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ อย่างต่อเนื่อง ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด 19 อย่างเคร่งครัด 
 
ที่ผ่านมา ญาติโยม พุทธศาสนิกชน นิยมไปนั่งสมาธิ ด้านหลัง กุฎิเจ้าวาสวัดสำราญนิเวศน์ เพราะกันพื้นที่ไว้ 1 ไร่ ทำเป็นแท่นปูนชีเมนต์ยกสูงราวๆ 1 เมตร จำนวน 50 แท่น สำหรับเป็นที่นั่งสมาธิ พร้อมทำเป็นทางเดินรอบๆ เพื่อเป็นทางเดินจงกรม ท่ามกลางป่าไม้นานาพันธุ์ สงบ ร่มรื่นมาก 
 
 
สำหรับ องค์พระสังกัจจายน์  มีความสูง 26 เมตร หน้าตักกว้าง 10 เมตร ประดิษฐานอยู่ภายในวิหาร และรอบๆฐานองค์พระสังกัจจายน์ ก็จะมีพระสังกัจจายน์องค์เล็กตั้งอยู่ จำนวน 84,000 องค์ ตามพระธรรมขันธ์ อย่างสวยงาม และห่างไปทางทิศใต้ประมาณ 50 เมตร ก็จะเห็นพระพุทธรูปประจำวันเกิด ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในเพิงถาวร โดยมีสิงโตทอง 2 ตัว ยืนอยู่สองข้างทางเข้า พร้อมรอยพระพุทธบาท จำลอง วางอยู่บนแท่นยกสูงประมาณ 1 เมตร และมีกองใหญ่เก่าแก่ 2 ใบ พร้อมฆ้อง 3 ใบ ก็มีให้เห็นได้ดูชมเช่นกัน 
 
ส่วน วิหาร มีชื่อว่า ทิพย์อำนาจ ประดิษฐาน พระพุทธรูป ทิพย์อำนาจ แบบปูนปั้น สีทองทั้งองค์ ลักษณะเป็นพระประธาน สูง 15 เมตร หน้าตักกว้าง 10 เมตร ล้อมรอบไปด้วยสัตว์ในวรรณคดีหลากหลายชนิด และพระพุทธรูป จำนวนหนึ่ง สวยงามมาก โดยเฉพาะด้านหน้าวิหาร บริเวณบันไดทางขึ้น ทำเป็นรูปปั้นพระสงฆ์เดินธุดงยืนอยู่บนหลังสัตว์ในวรรณคดี ลักษณะตัวเป็นเต่าหัวเป็นพญานาค 4 เศียร และมีเต่าเงิน 2 ตัว เต่าทอง  2 ตัว ประจำอยู่ 4 ทิศ ทั้งนี้ วิหารทิพย์อำนาจสวยงามมาก   
 
นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนพระปริยัติธรรม สำหรับพระสงฆ์และสามเณร ที่ต้องการใฝ่หาความรู้ ศึกษาธรรมะเพิ่มเติม  ก็มีการเปิดสอน เปิดเรียนที่นี่ จากระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งเรียนฟรี 
 
 
ส่วนด้านหลังของวัด เป็นสระน้ำขนาดกลาง 1 สระ ประกอบด้วยสัตว์น้ำหลากหลายชนิด โดยมีผู้ใจบุญนำมาปล่อย จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดเล็ก มีผู้คนเข้ามาชมและให้อาหารปลาตลอดเวลา ซึ่งจัดให้เป็นเขตอภัยทางและขณะนี้ กำลังก่อสร้างอุทยานธรรม ทำเป็นทางเดินรอบสระน้ำ โดยมี พระพุทธรูป วังพญานาค ศาลากลางน้ำ และพญาชาละวัน มีพระพุทธรูปนั่งอยู่บนหลัง เป็นต้น เพื่อเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งเดินหน้าก่อสร้างไม่หยุด อีกไม่นานคงจะเสร็จสบบูรณ์ เปิดให้ท่องเที่ยวได้เต็มรูปแบบ 
 
ก่อนเดินทางกลับพุทธศาสนิกชน ญาติโยมทั้งหลาย จะเข้าไป ฟังธรรมเทศนากับ พระวิชัยมุณี เจ้าอาวาสวัดสำราญนิเวศ และ เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ  ซึ่งแต่ละคนที่มาหาจะมีความทุกข์ต่างกัน ในการเทศนาแสดงธรรมทุกครั้ง ก็จะนำเอาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พุทธศาสนิกชน ญาติโยม ทั้งหลายฟังเป็นหลักปฏิบัติ และ เน้น ความกตัญญู รู้คุณบิดา มารดา และประเทศชาติ จะต้องมีอยู่ในใจเป็นสำคัญ  จากนั้น ก็จะรดน้ำมนต์ให้กับทุกคน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ เพื่อความเป็นสิริมงคล ให้สามารถฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปได้ด้วยดี 
 
 
พระวิชัย มุนี เจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ เทศนาว่า ก่อนนอนต้องไหว้พระไตรสรณคมน์ไม่ให้ขาด ตลอดทั้งเช้าและเย็น หลังจากไหว้พระเสร็จ ให้สำรวมจิตใจสงบเป็นสมาธิ แผ่เมตตาให้ตนเองและสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้ครูบาอาจารย์  พ่อ แม่ ตามบทแผ่เมตตา พระพุทธเจ้า ตรัสไว้ในเมตตานิสังสสูตรว่า ผู้เจริญเมตตาเต็มที่แล้ว ได้รับอานิสงส์ 11 ประการ คือ  
 
1.สุขัง สุปะติ คือ หลับก็ไม่ฝันร้าย 2.สุขัง ปะฏิพุชณะติ คือ ตื่นก็เป็นสุข 3. ปาปะกัง คือ สุปินังปัสสะติ คือ หลับก็ไม่ฝันร้าย 4.มะนุสสานัง ปิโย โหติ คือ เป็นที่รักของมนุษย์ 5.อะมะนุสสานัง ปิโย โหติ คือ เป็นที่รักของภูตผีปีศาจ ผีไท้  นางทรง เทวดาอารักษ์ ปู่ตาย่าแฮด ไม่มาเบียดเบียนให้เจ็บตัว  ด้วยประการต่างๆ 6.เทวะดารักขันติ คือ เทวดาย่อมมาอภิบาลรักษาผู้เจริญ ทุกค่ำเช้า จะมีเทวดามารักษาวันละ 6 องค์ 7. นาสสะอัคคิ วา สัตถังวา กะมะติ คือ ไฟ ยาพิษ ศัสตรา ย่อมไม่ทำร้าย หรือเป็นอันตราย 8.ตุวะฏัง จิตตัง สะมาธิยะติ(ผู้มิจตเมตตา)จิตตั้งมั่นได้เร็ว มีสามธิได้เร็ว 9.มุขะวัณโณ วิปปะสีทะติ มีจิตรใจเบิกบาน ไม่เศร้าหมอง 10. อสัมมุฬโห กาลัง กะโรติ เวลาจะสิ้นลมหายใจก็มีสติ 11.อุตตะริง อัปปะฏิวิชณันโต พรหมโลกูปะโค โหติ เมื่อยังไม่บรรลุมรรคผล ในปัจจุบัน ก็จะเข้าถึงพรหมโลก 
 
ขอให้พวกเราทั้งหลายเจริญเมตตาทุกค่ำเช้า ผู้มีความเมตตาปรารถนา ไม่ให้สัตว์อื่นตกทุกข์ได้ยาก โดยเปรียบเทียบกับตนเองที่รักสุขภาพเกลียดทุกข์ฉันใด ผู้อื่นสัตว์อื่นก็เหมือนกัน แล้วก็ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน 
 
 
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำใจให้บริสุทธิ์สดใส ทั้งนี้ ความเชื่อในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มี 4 ประการ คือ 1. กัมมสัทธา เชื่อกรรม 2.วิปากสัทธา เชื่อผลของกรรม 3.กัมมัสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์มีกรรมเป็นของตน 4.ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระคถาคต 
 
กุศลกรรม คือ ความดี เหตุดี ได้ผลดี เหตุชั่ว ได้ผลชั่ว เชื่อว่า บรรดาสัตว์ทั้งหลายทั่งยังมีกิเลสสานุสัย ทำกรรมดันใดด้วย กาย วาจา ใจ ก็ย่อมได้เสวยผลจองกรรมนั้นๆ กรรมนั้น แหละย่อม จำแนกสัตว์ ผู้กระทำให้ประณีตและเลวทรามต่างๆกัน ความหยั่งรู้ในคุณพระพุทธเจ้า คุณธรรมเจ้า คุณพระสงฆ์เจ้า เชื่อไปว่าพระผู้มีพระภาคเจ้า เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ธรรมโดยชอยด้วยพระองค์เอง ธรรมที่พระองค์ทรงสั่งสอน เวไนยสัตว์ ได้ชื่อว่า ตรัสรู้ชอบแล้ว และสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ปฏิบัติดีแล้ว เป็นต้น  
 
เมื่อเราศรัทธาในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์แล้ว ก็ให้พากันทำความดีให้ทุกวัน ไม่เลือกวันเวลา เช่น การปฏิบัติธรรม ไม่เชื่อมงคลตื่นข่าว ว่า ทำวันนั้นเวลานั้น จึงจะเจริญดีมีความสุข คือ การทำความดีนั้น เป็นอกาลิโก คือ ไม่เลือกกาลเวลา ทำเมื่อไรได้ผลเมื่อนั้น ถือเอาความเหมาะสม และสะดวกเป็นประมาณ ขอให้ทำบุญในพระพุทธศาสนา คือ ให้ทาน รักษาศีล เจริญเมตตาภาวนา ก็เชื่อว่า รักษาอุบาสก อุบาสิกาไว้ด้วย 
 
 
สมบัติทั้ง 5 ประการ ที่บรรยายไปแล้วนั้น ขอให้รักษาไว้โดยเคร่งครัดและให้พวกเราเว้นวิบัติ 5 ประการ อันวิปริตตรงข้ามกันนั้น วิบัติ 5 ประการ คือ 1.ไม่มีศรัทธา 2.ไม่มีศีล 3.เชื่อมงคลตื่นข่าว เชื่อฤกษ์ยามเคราะห์ 4แสวงหาเขตนาบุญนอกพุทธศาสนา 
 
พวกเรา เป็นอุบาสก อุบาสิกา พึงรักษาสมบัติของพวกเราไว้ อย่าให้บกพร่อง ให้พากันตั้งอกตั้งใจรักษา เจริญเมตตาภาวนา พวกเราก็จะได้มีพลานิสงส์ ที่อาตมาได้บรรยายมาแล้ว ก็ให้พากันมีศรัทธาตามที่กล่าวมาแล้ว คือ คาระธรรม 6 ประการ ขอให้ญาติโยม ได้นำไปปฏิบัติ สิ่งใดควรละ ก็ขอให้พากันเพียรละสิ่งใดที่เป็นประโยชน์ ขอให้นำไปประพฤติปฏิบัติ จะทำให้ใจสบาย มีความสุข และ ขอให้ญาติโยม ทั้งหลาย จงสุขกาย สุขใจ ทุกท่าน ทุกคนเทอญ เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้... 
 
สนธยา ทิพย์อุตร/รายงาน 

หน้าแรก » ภูมิภาค