วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:25 น.

ภูมิภาค

จับเครื่องสำอาจเถื่อนค่าเกือบ10ล้าน

วันศุกร์ ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 15.17 น.

วันนี้ 12 พฤศจิกายน 2564  เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัช สำนักสาธารณาสุขจังหวัดพัทลุง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี  นำ พ.ต.อ. กู้เกียรติ  วงศ์พันธุ์ ผกก. 4 บก.สอท.5  และ พ.ต.ต.คมสัน  สมอ่อน สว.กก.4 บก.สอท.5  นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าค้นบ้านผู้ต้องหานางสาวนันยณา  ขุนณรงค์  อายุ 40 ปี  จำนวน 5 จุด หลังจากประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัช สำนักสาธารณาสุขจังหวัดพัทลุง ว่าบุคคลดังกล่าวจำหน่ายผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจไม่มีคุณภาพทางออนไลน์และเฟสบุ๊ค เมื่อผู้ใช้แล้วใช้เกิดอาการแพ้ เป็นผื่นคันและบางรายถึงขั้นผิวอับเสบ  จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ หลังเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน พบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจเถื่อนไม่จดแจ้งเลขที่สินค้าและจำหน่ายเครื่องสำอาจปลอม  เขตเทศบาลเมืองพัทลุง 1 จุด บริเวณบ้านพักเลขที่ 23 หมู่บ้านมีทรัพย์ ซอย 10 ถนนอภัยบริรักษ์ อำเภอเมืองพัทลุง และบริเวณบ้านเช่าจำนวน 2 หลัง ปากทางเข้าหมู่บ้านมีทรัพย์  นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้เข้าค้นบ้านญาติของผู้ต้องหาที่อำเภอเขาชัยสนอีกจำนวน 1 จุด
             

 

จากการเข้าค้นบ้านและร้านเสริมสวย ของผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่พบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจส่วนใหญ่เป็นเครื่องสำอาจบำรุงผิวพรรณของผู้หญิงหลากหลายชนิด บางชนิดมีชื่อยี่ห้อ บางชนิดไม่มีชื่อยี่ห้อ ที่สำคัญบริเวณบ้านพักของผู้ต้องหา ยังพบเป็นที่ผลิตวัตถุดิบที่ผสมเองพร้อมกระปุกเตรียมบรรจุภัณฑ์ จำหน่ายส่งให้ลูกค้าที่สั่งทางระบบออนไลน์ และทางเฟสบุ๊ค และจาการค้นพบผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจทั้ง 5 จุด เจ้าหน้าที่พบสินค้าเป็นจำหน่ายมากซุกซ่อนไว้ภายในบ้านพัก ห้องเช่าที่เปิดร้านเสริมความงาม จากการประเมินเบี้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่ามีมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
          

 

 

 

ทางเจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัช สำนักสาธารณาสุขจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าจากการตรวจค้นสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือสิค้าปลอมแปลงไม่มี อย. ในครั้งนี้นั้นเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจ จากผู้ต้องหารายดังกล่าวที่จำหน่าย เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจค้นพบสินค้าผลผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาจจำนวนมาก และจากการตรวจสอบพบว่าเป็นสินค้าเครื่องสำอาจเถื่อนไม่จดแจ้งเลขที่สินค้าและจำหน่ายเครื่องสำอาจปลอม  ไม่มีการแจ้งสถานที่ผลิต และหากเจ้าหน้าที่นำผลผลิตภัณฑ์ตรวจสอบคุณภาพหากพบสารที่ทำให้เกิดอันตราย ก็มีความผิดอีกกระทงหนึ่ง ซึ่งมีโทษจำคุกสูงไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 3 แสนบาท

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค