เมื่อวันที่  6 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านโป่งมะค่า ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้พบกับนางพัชรา นวนหิน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 119/6 หมู่ 7 ตำบลระบำ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ได้ร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าว พร้อมกับเปิดเผย ว่าชาวบ้านไม่ไหวแล้ว ช้างป่าออกมาเป็นฝูงช่วงดึก มากัดกินพืชไร่ของชาวบ้านเสียหาย โดยเฉพาะไร่ของชาวบ้านที่ติดอยู่กับขอบเขตกันชนเขตขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้สวนป่าห้วยระบำ ซึ่งเป็นบริเวณป่าที่ไม่มีแนวกั้นขอบเขต ชาวบ้านเดือดร้อนหลายหลังคาเรือน เหลือไว้เพียงอุจระช้าง ชาวบ้านที่ลาดตระเวนกลางคืนต้องวิ่งหนีตาย หากหนีไม่ทันคงโดนช้างเหยียบตาย ซึ่งปัญหามันมีมานาน ที่ช้างป่าออกมากินพืชไร่ของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาแก้ปัญหาระยะยาวให้กับชาวบ้านได้เลย  

ทั้งนี้ทางชาวบ้านได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าห้วยทับเสลา-ห้วยระบำ ให้มาช่วยลาดตระเวนพร้อมกับชาวบ้านตามแนวขอบเขตป่าที่ติดกับบ้านเรือนชาวบ้าน แต่ช้างป่าก็ไม่กลัวเกรง ยิ่งพากันออกมาเป็นฝูง ชาวบ้านใช้ลูกปิงปองไล่ก็ไม่ไปแถมยังไม่กลัว กลายเป็นเสียงที่ช้างฟังจนชิน คืนๆชาวบ้านต้องเสียเงินหลายบาทมาซื้อประทัดปิงปอง เพื่อส่งสัญญาณไล่ช้างหลายๆครั้ง ไม่ให้มากินพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ที่เขตของชาวบ้าน

บางคนแถบร้องไห้ ผลกำลังออก หรือพึ่งลงปลูก ช้างป่าฉลาด กัดกินเหวี่ยงเสียหายกันหลายไร่ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักมาหลายสิบปีแล้ว อยากวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้ชาวบ้านระยะยาว โดยชาวบ้านอยากได้แนวรั้วกั้นขอบเขตระหว่างเขตป่า เพื่อยังบรรเทาช้างป่าออกมานอกเขตและออกมากินพืชไร่ได้บ้าง และยังช่วยในการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อลดการเสี่ยงกับการไล่ช้างอย่างกระชันชิดหากไม่มีขอบเขตกันชน หากช้างมากลางคืนจะมองไม่เห็นตัว หวั่นเกิดอุบัติเหตุจากช้างป่าเหยียบเสียชีวิตได้