วันพฤหัสบดี ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 16:39 น.

ภูมิภาค

"ทวี" แซะ "ชลน่าน" พาพท.ชนะเลือกตั้ง ฟันธง "บิ๊กตู่" นั่งนายกฯอีกสมัย

วันจันทร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 09.35 น.
จากกรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินหน้าทีมครอบครัวเพื่อไทย มุ่งหวังคืนความฝันให้คนไทย มั่นใจเลือกตั้งครั้งหน้า พท. แลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน พร้อมรับพื้นที่ภาคกลางพรรคยังไม่เข้มแข็ง ย้ำต้องทำให้แน่นก่อนรับศึกเลือกตั้งครั้งหน้า ลั่นตั้งใจให้ได้เกินครึ่งตามประกาศแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน
 
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย. นายทวี ไกรคุปต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม บิดาของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีตส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ได้ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่า หยุดยาว 3 วัน ผมขออนุญาติพูดถึง หมอชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่พยายามสร้างกระแสการเลือกตั้งครั้งหน้าชนะ ถล่มทลายแลนด์สไลด์ เช่น รัฐบาลพรรคเดียวเหมือนพรรคไทยรักไทย พร้อมแถลงข่าวใหญ่โตว่า ส.ส.ภาคกลางมี 90 กว่าคน การเลือกตั้งครั้งหน้า ได้เกิน 50 คน เหมือนยุคไทยรักไทย ผมขอเรียนในฐานะเคยเป็นส.ส.ภาคกลางมายาวนานว่า คนภาคกลางส่วนใหญ่จะเลือกส.ส.พรรครัฐบาล เพราะเห็นว่าเป็นส.ส.พรรครัฐบาล สามารถสนองตอบความต้องการของประชาชน และพัฒนาพื้นที่จังหวัดได้ดีกว่าส.ส.พรรคฝ่ายค้าน
ในยุค นายกทักษิณ ลงศึกครั้งแรก สู้กับพรรคประชาธิปัตย์ คนชอบนโยบายของพรรคไทยรักไทย และวิเคราะห์ว่า นายกทักษิณ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี จึงเลือกพรรคของ นายทักษิณ คือ ส.ส.ราชบุรี ทั้ง 5 คน และ จ.เพชรบุรี 3 คน เป็นของพรรค นายกทักษิณ ยกจังหวัดได้ ส.ส.ภาคกลาง 80% ภาคเหนืออีสาน 80% เป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่มาถึงยุค หมอชลน่าน เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สืบทอดจากพรรคไทยรักไทย ปลุกกระแสพรรคเพื่อไทย ชนะถล่มทลายแลนด์สไลด์ เหมือนยุคไทยรักไทย
 
"จากประสบการณ์ทางการเมืองอันยาวนานผม ฟันธงได้เลยว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะนายกทักษิณเป็นคนเฉลียวฉลาด เป็นนักธุรกิจประสบความสำเร็จ มีความจำดีและจำได้นาน มีวิสัยทัศน์กว้างไกล แตกต่างกับ หมอชลน่าน อย่างสิ้นเชิง เพราะเพียงแค่จำนวนส.ส.ภาคกลาง หมอชลน่าน ยังจำ ผิดว่ามี 90 กว่าคน พูดอยู่ท่ามกลางส.ส.แกนนำพรรคหลายคน โดยไม่มีใครทักท้วงหัวหน้าพรรคพูดปล่อยไก่ ตัวโต โดยแท้จริงส.ส.ภาคกลาง มีเพียง 50 กว่าคนเท่านั้น"
 
ในยุค หมอชลน่าน เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีส.ส.ภาคกลางเหลือเพียง 20% จึงเป็นไปไม่ได้ที่การเลือกตั้งครั้งหน้า จะชนะถล่มทลายแลนสไลด์ ได้ส.ส.ภาคกลางเกิน 50 คน ตามที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยสร้างกระแส จากผลการเลือกตั้งนายกอบต. เมื่อวันที่ 28 พ.ย.64 เครือข่ายของพรรคพลังประชารัฐ ชนะถล่มทลายเกินครึ่ง เก็บ 4,500 อบต. จ.ราชบุรี จ.เพชรบุรี จ.กาญจนบุรี 80% ลูกชายผมก็ลงสมัครด้วย โดยผมไม่ได้ช่วยหาเสียง ให้เขาสู้กันเองโดยไม่มีชื่อพรรค ในพื้นที่ก็ทราบกันดีว่า เป็นเครือข่ายพรรคพลังประชารัฐ มีหลายพื้นที่ที่แข่งขันกันเองใครชนะก็เป็นพลังประชารัฐ เช่นที่ จ.ชัยภูมิ ยุคนายกทักษิณ ได้นายกอบต. 80% แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยเหลือเพียง 20% อีก 80 % เป็นของพรรคพลังประชารัฐ
 
ผลการเลือกตั้งนายกอบจ. ที่ผ่านมา เครือข่ายของพรรคพลังประชารัฐ ชนะเกินครึ่งหลายจังหวัด แข่งขันกันเองก็มี เช่น จ.กำแพงเพชร 2 ทีมแข่งกันเอง ใครชนะก็เป็นเครือข่ายของพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายที่แพ้ก็ยังทำงานการเมืองอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ถึงแม้พรรคไม่ได้ให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง"
 
ขณะที่สื่อได้เสนอข่าว "รัฐบาลอัดฉีดเงินช่วยชาวนา 3 เด้ง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประเดิมกดปุ่มจ่ายเงิน ประกันราคาข้าว พร้อมแจกอัด" ภาพนี้แสดงให้เห็นความรักความผูกพันธ์ของ 2 ป.อยู่เหมือนเดิม ไม่เป็นไปตามกระแสที่ปั่นให้แตกแยกจากกัน ทั้ง ๆ ที่ พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ประกาศให้ทุกคนได้ทราบโดยทั่วกันแล้วว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคหลังประชารัฐ ขอเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นนายกรัฐมนตรี อยู่บนบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐเพียงคนเดียว และ พลเอก ประยุทธ์ ก็ตอบรับเช่นกันว่า จะเป็นนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อของพรรคพลังประชารัฐ เป็นสัตยาบรรณที่สังคมไทยได้รับรู้โดยทั่วกัน
 
"ผมจึงขอฟันธงว่า เลือกตั้งครั้งหน้าเขียนชื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ไว้ข้างฝาบ้านได้เลย และท่านจะเป็นนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี ตามรัฐธรรมนูญ นับตั้งแต่เดือน ก.ค.62 ถึง ก.ค.70 และรัฐบาลนี้จะอยู่ครบเทอมไม่มีการยุบสภา จะเป็นไปตามที่ผมฟันธงหรือไม่ คงไม่นานเกินรอได้รู้กัน"

หน้าแรก » ภูมิภาค