กรณีที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ แจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ หลังตรวจสอบพบ มีการตัดโค่นต้นไม้ ปรับพื้นที่ บริเวณ หาดคลองสน ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ พื้นที่ 8 ไร่  ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่แปลงดังกล่าว อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ได้ตรวจยึดพื้นที่ไว้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2546  รวมพื้นที่ 125 ไร่  ขณะนั้นเป็นป่าเสม็ดขาว ป่าสน ตลอดแนวชายหาด ป่าชายเลน อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าอ่าวนาง และป่าหางนาค  อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ 

 

 

วันที่ 9 ม.ค.65 พ.ต.อ.อภิชาติ จินาเพ็ญ ผกก.สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ได้รับการประสานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ  หรือดีเอสไอ ให้สรุปสำนวนส่งมอบให้ โดยจะเร่งสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ทั้งพยาน และ จนท.จากหน่วยงานเกี่ยวข้องจาก อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่  และ จนท.สนง.ที่ดิน จ.กระบี่ เจ้าของผู้ถือเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินทุกราย และชาวบ้านในพื้นที่  โดยในส่วนของผู้ถือเอกสารสิทธิครอบครองที่ดิน ขณะนี้ออกหมายเรียกให้มาแสดงตัวกับพนักงานสอบสวน ในฐานะพยานก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกรายแสดงที่มาที่ไปของเอกสารสิทธิ ซึ่งได้ออกหมายเรียกไปแล้ว กว่า 10 ราย แต่ยังไม่มีผู้ใดมาแสดงตัว โดยจะออกหมายเรียกไป 2 ครั้ง หากไม่มาแสดงตัว ก็จะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการต่อไป  นอกจากนี้กำลังประสานขอภาพถ่ายทางอากาศของพื้นที่เกิดเหตุ ตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปัจจุบัน จากอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ เพื่อตรวจสอบว่ามีสภาพความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่อย่างไรบ้าง มาใช้ประกอบสำนวน ดำเนินคดี

 

สำหรับพื้นที่ตลอดแนวชายหาดคลองสน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม กับ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี โดยมี คลองกั้นกลาง พบว่า มีกลุ่มนายทุนเข้ามาถือสิทธิครอบครองเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลมานานหลายปี มีการแบ่งพื้นที่ เป็นแปลง แปลง ละ 2 ไร่  รวม กว่า 10 แปลง มีทั้งอดีตนักการเมือง นักธุรกิจ ดารานักแสดง ถือครองเป็นเอกสาร น.ส.3 ก. โฉนดที่ดิน สร้างเป็นรีสอร์ท บังกะโล ให้ผู้อื่นเช่าดำเนินกิจการ เช่น แปลง น.ส.ก. เลขที่ 809 เนื้อที่ 2 ไร่  มีชื่อหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับอดีต หน.อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธาราหมู่เกาะพีพี จ.กระบี่  มีการซื้อขายกัน มูลค่าไร่ละ กว่า 20 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เอกสารครอบครอง ออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่