วันพุธ ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 22:31 น.

ภูมิภาค

วัดดังเมืองร้อยเอ็ดฯ พร้อมจัดงาน สืบสานประเพณีบุญคูณลานบุญกุ้มข้าวใหญ่ ร่วมใจสร้าง “เจดีย์รวงข้าว”

วันเสาร์ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2565, 09.56 น.
ที่วัดสันติวิหาร บ้านธวัชดินแดง ต.ธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเตรียมจัดงาน “สืบสานประเพณีถวายพระเจดีย์ข้าวเปลือก (บุญกุ้มข้าวใหญ่) ประจำปี 2565  ” พบพระสงฆ์และชาวบ้าน ช่วยกันประดิษฐ์เจดีย์รวงข้าว สีทองเหลืองอร่ามกลางลานวัดและชาวบ้านผู้หญิงต่างทะยอยนำรวงข้าวขึ้นตกแต่งตามโครงสร้างของเจดีย์ ชาวบ้านที่เป็นผู้ชายก็พากันเก็บรายละเอียดโครงสร้างของเจดีย์ให้สมบูรณ์ที่สุดส่วนพระสงฆ์ก็ช่วยกันผ่าและเหลาไม้ไผ่เพื่อใช้ประกอบโครงสร้างของเจดีย์เป็นภาพของความสมัครสมานสามัคคีที่น่าชื่นชมยิ่งนักของคนที่ผ่านไปผ่านมาได้มาประสพพบเจอทั้งชาวบ้านพระสงฆ์ต่างร่วมแรงรวมใจกันคนละไม้คนละมือโครงสร้างขององค์เจดีย์จึงได้สำเร็จตามภาพที่ได้เห็น
 
พระครูปริยัติวรศาสน์(พระมหาชำนิ) เจ้าคณะตำบลธงธานี อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ผู้นำกิจกรรม กล่าวว่า การสร้างเจดีย์รวงข้าว เพราะต้องการสืบทอดประเพณีวัฒนธรรม ตามฮีตสิบสองคองสิบสี่ ของชาวอีสานเดือนอ้าย-เดือนยี่ ชาวบ้านจะทำบุญคูณลาน บุญกุ้มข้าวใหญ่ ซึ่งปัจจุบันไม่มีบุญคูณลานหรือมีก็น้อยมากเพราะใช้รถเกี่ยวข้าวและสีข้าวเลย จึงต้องการรื้อฟื้นประเพณี เพื่อให้คนรุ่นใหม่ ว่าสมัยก่อนพ่อแม่เคยทำแบบไหน จึงชวนพระและชาวบ้านมาทำให้เป็นรูปทรงเจดีย์ เผื่อจะเป็นประโยชน์ เป็นวัฒนธรรมแบบชาวอีสาน ให้ได้มากราบไหว้ระลึกถึงพระคุณแม่โพสพ ซึ่งมีพระคุณเลี้ยงชีวิตชาวโลกมา 
 
หากมีโอกาสมาเที่ยว ศูนย์วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมเพื่อการศึกษาร้อยเอ็ด(ท้องฟ้าจำลอง) ปรางค์กู่ ปราสาทขอมที่อำเภอธวัชบุรี ก็แวะมาเที่ยวชมเจดีย์รวงข้าวที่วัดสันติวิหารร้อยเอ็ดได้วัดเราทำตามมีตามเกิด การสร้างเจดีย์รวงข้าวสร้างด้วยใจบริสุทธิและความศรัทธา พอเพียงและเพียงพอตามหลักปรัชญาของพ่อหลวงร.9เป็นที่ตั้ง
 
อีกประการหนึ่งทางวัดสันติวิหารฯเราโชคดีที่ได้พระนักคิดแนวสร้างสรรค์อย่างหลวงพ่อพระครูวรธรรม ไชยสุนทร ท่านเจ้าอาวาสวัดบ้านขามใต้ ต.บึงนคร อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ดท่านอนุเคราะห์เป็นผู้ควบคุมและดำเนินการจัดสร้างเจดีย์รวงข้าวร่วมกับญาตโยม ศรัทธาวัดสันติวิหารร้อยเอ็ดในครั้งนี้
 
พระครูปริยัติวรศาสน์พระมหาชำนิ)กล่าวต่ออีกว่า งานประเพณี “สืบสานประเพณีถวายพระเจดีย์ข้าวเปลือก (บุญกุ้มข้าวใหญ่) ประจำปี 2565 ของวัดสันติวิหารร้อยเอ็ด” จะจัดในวันที่ 16-17 มกราคม 2565 ก็ขอเชิญชวนลูกหลานชาวบ้านธวัชดินแดงและใกล้เคียง มาเที่ยวประเพณีอีสานบ้านเรา เพื่อไม่ให้กิจกรรมที่ดีงามเลือนหายไปจากประเพณีวัฒนธรรมอีสาน โดยวันที่ 16 มกราคม 2565 จะมีการบวงสรวงเปิดงานเจดีย์รวงข้าวโดยลูกหลานจิตอาสาวิทยาลัยนาฎศิลปร้อยเอ็ด มีกิจกรรมประกวดร้องเพลง -กิจกรรมวาดภาพระบายสี ของลูกหลานและเยาวชนชาวบ้านธวัชดินแดง -กิจกรรมสมโภชรื่นเริงโดยศิลปินลูกทุ่งหมอลำสมจิตร บ่อทองและศิลปินชาวบ้านผสมผสานอย่างเรียบง่ายและลงตัว และมีโรงทานจากศรัทธาบุญทั้งวันภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคระบาดไวรัสโคโรน่า(โควิด-19)อย่างเคร่งคัดการ์ดไม่ตกทางวัดคำนึงถึงเรื่องสุขภาพเป็นสำคัญ
 
อนึ่งการสร้างเจดีย์รวงข้าว ได้มีชาวบ้านในตำบลธงธานี บ้านธวัชดินแดง และอีกหลายหมู่บ้านนำรวงข้าวมาบริจาคถวายวัดอีกทั้งบางครอบครัวก็ถวายข้าวทั้งแปลงนาให้ทางวัดและชาวบ้านได้ลงแขกเกี่ยวข้าวเพื่อจะนำรวงข้าวที่ได้มาสร้างเจดีย์รวงข้าว หลังเสร็จงานแล้วรวงข้าวส่วนหนึ่งจะให้ชาวบ้านนำไปบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล  ส่วนข้าวที่เหลือจะนำไปสีแจกให้ผู้ยากจน และใช้ในกิจกรรมทางพุทธศาสนาของทางวัดต่อไป
 
ด้าน นายทองมา สุบิน อายุ49 ปี ชาวบ้านธวัชดินแดงที่มาช่วยงานทางวัดเป็นประจำและครั้งนี้ได้เป็น1ในทีมช่างจิตอาสาทำโครงสร้างเจดีย์รวงข้าวเปิดเผยว่า ฐานเจดีย์รวงข้าวเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 6.30 เมตร สูงจากฐานถึงยอดฉัตร 12 เมตร ส่วนรวงข้าว หรือฟ่อนข้าว ชาวบ้านนำมาทำบุญบริจาคกว่า 1 หมื่นกว่าฟ่อน และนำมาคัดเลือกเอารวงข้าวที่สมบูรณ์ เพื่อนำมาประดับเจดีย์รวงข้าว 
 
สำหรับสิ่งที่ได้จากการจัดงาน สืบสานประเพณีถวายพระเจดีย์ข้าวเปลือก (บุญกุ้มข้าวใหญ่) ประจำปี 2565 วัดสันติวิหารร้อยเอ็ด ไม่ว่าจะเป็นการบริจาครวงข้าว  ทั้งจตุปัจจัยจากศรัทธาใกล้ไกลที่ไม่สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ได้เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาด(ไวรัสโคโรน่า-19)ปัจจัยเหล่านั้นจะนำมาปฏิสังขร บูรณะวัดวาอาราม และยังเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้พระแม่โพสกที่ดูแลข้าวปลาอาหาร สิ่งสำคัญที่สุดคือความสามัคคีของคนในชุมชน ซึ่งทั้งชาวบ้าน วัด ได้จัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสมัครสามัคคีของคนในชุมชน
 
ช่วงท้ายนายชัยวัฒน์ เงิมสันเทียะ อายุ57 ปี โยมอุปัฏฐากวัดสันติวิหารร้อยเอ็ด เผยว่าสำหรับมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นทางวัดสันติวิหารฯและผู้นำชุมชนได้จัดเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจคัดกรองผู้ที่จะเข้าร่วมงานฯทุกคน ทั้งการตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมหน้ากากอนามัย และมีเจลล้างมือไว้บริการ ไม่อนุญาตให้ญาติโยมที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการควบคุม ป้องกันโรคระบาดไวรัสโควิด-19เข้าภายในบริเวณจัดงาน(ภายในวัด)เด็ดขาด อีกทั้งยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลไว้ภายงานอีกด้วย

หน้าแรก » ภูมิภาค