เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 18 ม.ค. 65 ที่บริเวณลานหน้าบ้าน นายสุข จันนา อายุ 52 ปี ชาวตำบลสร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ พร้อมเพื่อนบ้าน 5 คน กำลังชำแหละหมูแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆ โดยซื้อมาจากผู้ขายในตำบลสร้างนกทา ราคาไม่แพง เพื่อแก้ปัญหาหมูราคาแพง ส่วนพ่อค้า เขียงหมู ในตัวเมืองอำนาจเจริญ โอดครวญ หมูแพง ผู้ซื้อหาย กำไรหด เพราะลูกค้าหันไปบริโภคอาหารประเภทอื่นแทน 

 

นายสุข จันนา อายุ 52 ปี ชาวบ้านตำบลสร้างนกทา อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ระหว่างชำแหละหมูแจกจ่ายให้กับเพื่อนๆเพื่อนำไปปรุงอาหารอย่างอารมณ์ดีบอกว่า ตั้งแต่เนื้อหมูขึ้นราคามาหลายวัน ไม่ได้กินเนื้อหมูเลย วันนี้ ยากกินเนื้อหมู จึงตกลงกับเพื่อนบ้านหลายคน ด้วยการลงขัน ออกเงินกัน ไปซื้อหมู นางจัน หมู่บ้านเดียวกัน ราคา ตัวละ 2,500 บาท แบ่งเพื่อน 5 คน ตกเฉลี่ยคนละ 500 บาท ซึ่งถูกกว่าราคาในท้องตลาดมาก เนื้อหมูที่ได้จะทำกินได้หลายวัน โดยทำอาหารจากหมูสลับกับปลาและอาหารอื่นๆ แทน จึงเป็นการแก้หมูแพงได้ระดับหนึ่ง นายสุข บอก 

 

ส่วน นายสุรวิทย์ วงละคร อายุ 23 ปี เจ้าของเขียงหมูรายใหญ่ในตัวเมืองอำนาจเจริญ กล่าวว่า การระบาดของโรคอหิวาต์หมู หรือ asf มีการระบาดเป็นปีแล้ว หน่วยงานรัฐเพิ่งทราบ และแจ้งให้ประชาชนได้ทราบ ทำให้หมูแม่พันธุ์ล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้หมูขาดตลาด และมีราคาสูงขึ้น  

 

นายสรุวิทย์ พ่อค้าหมู กล่าวเพิ่มเติมว่า จำหน่ายสุกร หรือหมูมาร่วม 10 ปี โดยชำแหละขายวันละ 5 – 6 ตัว กระทั่งมีโรค asf ระบาดในหมู วันนี้ ชำแหละจำหน่ายเพียงตัวเดียว ก็ยังขายไม่หมด จำเป็นต้องนำชิ้นส่วนหมูที่เหลือใส่ตู้แช่แข็งไว้ ซึ่งราคาเนื้อหมูที่จำหน่าย คือ หมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 240 – 250 บาท เนื้อสามชั้นกิโลกรัมละ 320 บาท และกระดูกชี่โครงกิโลกรัมละ 180 – 190 บาท  

 

นอกจากนี้ ฟาร์มเลี้ยงสุกร ซึ่งป้อนขายให้กับตนนั้น ประสบปัญหาสุกรตาย จำนวนมาก บางคนตายยกคอกทั้งหมด จึงต้องชะลอการเลี้ยงไว้ก่อน ประกอบกับ หัวอาหารเลี้ยงสุกร มีราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัว และขอวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาควบคุมดูแลหัวอาหารสุกร ไม่ให้มีราคาแพงมาก เพื่อผู้เลี้ยงสุกร และพ่อค้าขายสุกร อยู่ได้ นายสุรวิทย์ เจ้าของเขียงหมูในตัวเมืองอำนาจเจริญ กล่าว