วันที่ 14 มี.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีมีคลิปสนั่นโซเซียลใน ในเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 3 ได้มีการโพสต์คลิปวิดิโอเหตุการณ์ ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังทะเลาะวิวาทกับชายอีกหนึ่งคน โดยใช้ไม้เป็นอาวุธฟาดใส่กันทั้งสองฝ่าย ในคลิปมีเสียงผู้หญิงระบุว่าอีกฝ่ายมีการใช้อาวุธมีด ความยาวคลิป 02.02 นาที มีการกดไลค์และแชร์ออกไปจำนวนมาก จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมรุนแรงที่เกิดขึ้น ในโพสต์ระบุว่า ผิดถูกอย่างไร..อย่าใช้ความรุนแรงเลย ยิ่งมีเด็กเล็กอยู่ด้วยไม่ควร จนท.ในพื้นที่ช่วยไกล่เกลี่ยให้จบปัญหาด้วย #อุดร ช่วยกันแชร์หน่อยนะคะ ตำรวจและทนายความเมืองอุดรธานี ไม่เคยให้ความช่วยเหลือใดๆ ช่วยกันแชร์ด้วย โดนรุมทำร้ายหลายต่อหลายครั้ง สองผัวเมียโดยมีมารดาเป็นคนพามารุมตี ที่อพาตเม้นท์มาตลอด 3 เดือนแต่ไม่เคยมีหน่วยงานใด รับเรื่องและเข้ามาดูแลแม้แต่คนที่บริเวณนี้ก็นิ่งเฉย ผ่านไปมาทำเหมือนเรื่องปกติ ขอความเป็นธรรมคะ ผู้ถูกกระทำคือคนใส่หมวกคะตอนนี้อาการแย่มาก -ที่ไหนครับ / ซอยศรีชมชื่น1 -แจ้งความเลยครับ / แจ้งแล้วคะ หัวเราะแล้วบอกว่า เดี๋ยวก็ฆ่ากันตายไปข้าง แค่นี้จริงๆ

 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ 12.00 น. ของวันที่ 12 มี.ค.65 ที่ผ่านมา บริเวณถนนในซอยหน้า อรุณรัตน์เพลส ภายในซอยศรีชมชื่น 1 หน้าซอยศรีชมชื่น 1/1 เขตเทศบาลนครอุดรธานี ลักษณะเป็นห้องเช่า 2 ชั้น 2 อาคาร หันหน้าเข้าหากัน ทั้งนี้ทราบว่าสาเหตุของการทะเลาะกันครั้งนี้เป็นพี่น้องกันแท้ๆ ระหว่างเขยพี่และเขยน้องที่ไม่ถูกกัน โดยทราบว่ามูลเหตุมาเรื่องเงินค่าหอพักของคนที่มาเช่าโอนไปจ่ายให้พี่สาว แต่น้องสาวไม่ยอมให้ไปเคลียร์ไปเอามาให้ หากไม่เอามาให้จะให้ย้ายออกไป ทางฝ่ายผู้เช่าไปทวงแล้วปรากฎว่าพี่สาวไม่ให้ และยังมีเรื่องทรัพย์สินทั้งที่ดิน กรรธรรม์ ทองคำ 60 กก.ที่น้องสาวฝากไว้กับพี่สาวแต่พี่สาวดันเอาไปใช้บางส่วน พอน้องสาวและสามีหนีโควิดมาอยู่บ้านที่อุดรและขอทรัพย์สินทั้งหมดคืนจากพี่สาวและแม่แต่ฝ่ายโน้นไม่ให้ ทำให้ทั้งพี่สาวและน้องสาวมีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด

 

โดยวันนี้ นายชัยอนันต์ ตรีสารศรี อายุ 47 ปีเขยรุ่นน้องและเป็นถึงนักร้องวงนำวงพองพอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองและภรรยาเพิ่งเดินทางมาอยู่ที่จ.อุดรธานีเมื่อเดือนธ.ค.64 ที่ผ่านมาเนื่องจากสถานการณ์โควิด โดยที่พักที่เกิดเหตุที่อพาร์ทเม้นให้เช่าของภรรยาตนเอง เรื่องมีอยู่ว่าคนเช่าห้องโอนเงินไปให้พี่สาวของภรรยาตนเอง ไม่ได้จ่ายกับพวกตน ภรรยาตนเองก็ให้ไปถามเอามาคืน แต่ทางโน้นไม่ให้ จากนั้นฝ่ายเขยรุ่นพี่ ภรรยาและแม่ยายพากันบุกมาถึงบ้านหาเรื่อง โดยยืนยันเขยรุ่นพี่บุกเข้ามาทำร้ายตนเองก่อนถึงภายในบ้าน ขณะที่ตนเองกำลังอุ้มลูกชายวัย 3 ขวบ ทำให้พวกเราตกใจและโกรธที่เข้าทำร้ายภายในบ้าน จากนั้นก็ปรากฏตามคลิป ตนเองได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อมือ คิ้วด้านขวาเพราะถูกเขยรุ่นพี่และพี่เมียใช้ไม้ฟาด วันนี้จึงมาปรึกษาทนายเพราะเคยไปแจ้งความกับตร.แล้ว เขาไม่ดำเนินการอะไรให้เลย

 

ขณะที่น.ส.ทิพย์ อายุ 33 ปีภรรยานายชัยอนันต์ คนที่ถ่ายคลิป เปิดเผยว่า เป็นเรื่องราวในครอบครัวตนเอง โดยพี่สาวตนเองแท้ๆ คลอดตามกันมา ชื่อโอ๋และพี่เขยเข้ามาทำร้ายพวกตน สาเหตุมาจากเรื่องคนเช่าโอนเงินผิดไปให้พี่สาวตนเองที่ไม่ได้ดูแลหอพัก  ตนก็บอกให้ไปขอคืนเอาเอง แล้วเอาเงินมาให้ฝั่งเรา เพราะเราเป็นเจ้าของหอพัก ให้เวลา 2 อาทิตย์เขาก็ไม่เคลียร์ให้ พอเขาไม่เคลียร์เราก็จะเชิญออก จากนั้นแม่กับพี่สาวก็ขี่จยย.มาจอดหน้าหอพัก แม่ก็บอกว่า มึงมาไล่เขาออกทำไม หนูก็บอกว่า ทำไมไม่เอาเงินค่าห้องให้เขาคืนหละ แม่ก็บอกว่าเดี๋ยวเดือนหน้าพวกมึงก็ได้ออกไปแล้ว หนูก็งงเพราะที่ดินตรงนี้และอพาร์ทเม้นเป็นของหนู ทั้งหมดมี 15 ห้องหนูเอา 9 ห้องให้พี่สาว 6 ห้อง จากนั้นแม่ก็ใช้ไม้ยื่นให้พี่สาวจะทำร้ายหนู เถียงกันอยู่นานแม่และพี่สาวก็กลับไป จากนั้นพี่สาวกับพี่เขยก็มาทำร้ายตามในคลิป

 

ส่วนที่แม่บอกว่าจะเรียกร้องทรัพย์สินคืนนั้นเพราะมองว่าเนรคุณนั้น หนูยืนยันว่า ไม่เคยเนรคุณแม่เลย เมื่อ 10 ปีที่แล้วแม่แบ่งทรัพย์สินให้ตนเองและพี่สาวเรียบร้อยแล้วไปต่างประเทศก็ส่งเงินมาให้พี่ตลอด ส่งมาให้แม่ทำกรรธรรม์เงินออมให้ 4 ฉบับ มูลค่าประมาณ 6 ล้านบาท สุดท้ายแม่ก็เปลี่ยนเป็นชื่อตนเองและให้ผู้ได้รับประโยชน์เป็นพี่สาว นอกจากนี้ทองคำ 60 กก พี่สาวเอาไปขายแล้ว 30 กก และยังมีโฉนดที่ดิน 2 แปลง เงินสดอีก 800,000 บาทเศษ บัตรเอทีเอ็มสมุดบัญชีตนเองฝากไว้กับพี่สาวหมด ไม่คิดว่าพี่สาวจะเอาเงินไปใช้  รวมทรัพย์สินของตนเองที่อยู่กับแม่และพี่สาวจำนวน 19 ล้านบาท ไม่คิดว่าเรื่องทรัพย์สินจะทำให้พี่น้องต้องผิดกันทั้งที่เป็นพี่สาวและแม่แท้ๆ ไม่อยากมีเรื่องมีราว หนูอยากคืนทรัพย์สิน เอกสารต่างๆ ที่อยู่กับแม่และพี่สาวคืนเท่านั้น แต่ดูๆ แล้วพี่ไม่อยากให้ แม่และพี่สาวจะเอาทรัพย์สินของตนเองหมดเลย พอเกิดเหตุการณ์ทะเลาะกันระหว่างครอบครัวขึ้นแล้ว ตอนนี้กลัวอันตรายอย่างมาก เพราะทางพี่สาวเขาก็มีเงินและมีอิทธิพล เลยมาร้องทนายให้ช่วย

 

ทางด้านนายสิปปภาส ชาญธีระเดช ทนายความ เปิดเผยว่า  เรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้เสียหายแจ้งว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเขามีทรัพย์สินกว่า 19 ล้านบาทฝากไว้กับพี่สาวและแม่แท้ๆ หลังจากแม่แบ่งให้ลูกๆ แล้ว โดยผู้เสียหายเชื่อว่าพี่สาวและแม่จะยักยอกทรัพย์สินไป คดีอาญาเรื่องทำร้ายร่างกายก็ว่ากันไป ส่วนคดีแพ่งที่คุณแม่ไปทำกรมธรรพ์ผิดไปจากเจตนาของผู้เสียหายจะตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อเรียกทรัพย์คืนให้ผู้เสียหายทั้งหมด ส่วนที่คุณแม่อ้างว่าลูกเนรคุณนั้นจะเรียกทรัพย์สินคืนทั้งหมด การเพิกถอนว่าลูกเนรคุณนั้นต้องมีพยานหลักฐานแน่ชัดว่าลูกประพฤติเนรคุณต่อพ่อแม่ แต่เท่าที่ผมตรวจสอบดู เหมือนมีการจงใจสร้างพยานหลักฐานขึ้นมาเพื่อให้ดูว่าผู้เสียหายเนรคุณ ตนเองจะตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง