วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 13:55 น.

ภูมิภาค

ประจวบฯเร่งแก้ปัญหาช้างป่าละอูออกหากินนอกพื้นที่ทั้งระยะสั้น-ระยะยาว

วันอังคาร ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2565, 08.06 น.

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ห้องประชุมศูนย์โอทอป (OTOP) ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน นายคมกริช เจริญพัฒนสมบัติ รองผู้ว่าราชการ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาช้างป่าใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ มี นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี นายประธาน สังวรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ นายอิทธิพล ไทยกมล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายทองใบ เจริญดง ผู้แทนสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (WCS ประเทศไทย) นายก อบต. ห้วยสัตว์ใหญ่ ฉก.จงอางศึก ตชด.ที่ 144 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาหลังจากที่มีช้างป่าละอูบุกรุกทำลายพื้นที่เกษตรกรรมและทำร้ายชาวบ้านจนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 


โดยที่ประชุมมีข้อสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดยระยะสั้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดตั้งชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังช้างป่าในพื้นที่ ปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่สาธารณะที่อยู่อาศัยบริเวณจุดที่เสี่ยงต่อการบุกรุกของช้างป่าเพื่อให้ประชาชนสามารถมองเห็นช้างป่าได้ชัดเจนและสามารถหลบเลี่ยงได้ จัดตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุกรณีพบช้างป่าบุกรุก โดยให้ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นเจ้าภาพในการดำเนินการร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ นอกจากนี้ให้มีการจัดประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกทุกเดือน โดยมอบหมาย อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นเลขานุการ รวบรวมข้อมูลรายงานผลการดำเนินการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฯทราบ รวมถึงศึกษาแนวทางการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนกรณีได้รับอุบัติเหตุจากช้างป่า

 


ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว อำเภอหัวหิน จะปรับปรุงแผนแม่บทแก้ไขปัญหาช้างป่าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาแต่ละด้าน จัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้ประสบภัยจากช้างป่า ดำเนินการก่อสร้างรั้วกันช้างให้แล้วเสร็จและซ่อมแซมรั้วกันช้างที่ชำรุดเสียหาย รวมทั้งการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างตามจุดที่ช้างป่ามักจะออกจากป่ามาหากิน

 


นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวมีการสะสมมาเป็นเวลานานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเข้าไปแก้ไขปัญหามาโดยตลอด จากปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นโอกาสทุกฝ่ายได้หันหน้ามาทบทวนถึงสาเหตุที่ทำให้การแก้ปัญหายังไม่ก้าวหน้าอย่างที่ควรเป็น โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป.

 

 

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค