โคราชกรณีที่มีผู้ใช้เฟชบุ๊คกลุ่มสาธารณะ “ฝนหน่วยกู้ภัยผี แกล้วทนงค์” โพสต์ข้อความว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เวลา 03.42 น. ที่ผ่านมา มีผู้พบคนผูกคอเสียชีวิต ที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บ้านตลาดท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอนันต์ โลเกตุ อายุ 27 ปีคืบหน้า “บอย” นักเคลื่อนไหวการเมือง ผูกคอตายปริศนา ล่าสุด แม่ และน้องชาย ไม่เชื่อผูกคอตายเอง วอนตำรวจดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา
 

นครราชสีมา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟชบุ๊คกลุ่มสาธารณะ “ฝนหน่วยกู้ภัยผี แกล้วทนงค์” โพสต์ข้อความว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 เวลา 03.42 น. ที่ผ่านมา มีผู้พบคนผูกคอเสียชีวิต ที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บ้านตลาดท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายอนันต์ โลเกตุ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 ต.หนองหมื่นถ่าน อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดเฉลิมพระเกียรติ ได้นำผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ เพื่อพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งเวลาต่อมาทราบว่านายอนันต์ หรือบอย เป็นนักกิจกรรมทางการเมือง ที่เพิ่มมาร่วมกิจกรรมสัมมนาพรรคก้าวไกล ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะหายตัวไป และมาพบอีกครั้งตอนผูกคอเสียชีวิตแล้ว ทั้งนี้นายอนันต์ฯ เคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองสมัยเป็นนักศึกษา เคยร่วมรณรงค์การ Vote NO ในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เมื่อ 23 มิ.ย. 2559 ที่ตลาดเคหะบางพลี จ.สมุทรปราการ ต่อมาถูกตำรวจและทหารควบคุมตัวและตั้งข้อหาฝ่าฝืน และตกเป็น 1 ใน 7 จำเลยในข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ต่อมายังเป็น 1ใน 5 ผู้ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ อีกครั้งเมื่อถูกจับกุมจากการติดรถเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี โดยรถคันดังกล่าวบรรทุกสติกเกอร์ Vote NO ไปด้วยเมื่อปี 2559
 

ล่าสุด วันนี้ (20 เมษายน 2565) เวลา 12.00 น. ที่ห้องเก็บศพโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นางสมพิศ โลเกตุ อายุ 48 ปี ชาว อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด แม่ของ นายอนันต์ โลเกตุ หรือบอย อายุ 27 ปี นักกิจกรรมเคลื่อนไหวรณรงค์ Vote No ประชามติรัฐธรรมนูญ ปี 2560 พร้อมญาติ เดินทางมาติดต่อขอรับศพนายอนันต์ฯที่เสียชีวิตในลักษณะแขวนคอที่ศาลาข้างที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา โดยพบศพเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ต้องรอผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากแพทย์เวรนิติเวช หากพบเชื้อจำเป็นต้องส่งศพไปชันสูตรที่กรุงเทพฯต่อไปญาติได้นำศพของนายอนันต์ฯ หรือบอย มาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายหลังจากที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ตรวจครั้งแรกมีผลก้ำกึ่งไม่แน่ชัดว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ จึงได้ส่งศพมาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อทำการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง ก่อนที่จะทำการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยมีนายุทธนา ลุนสำโรง ผู้ประสานงานเครือข่ายพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง พรรคก้าวไกล, นางหนูพิศ โลเกตุ แม่ผู้เสียชีวิต และน้องชาย 2 คน เดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อมารับศพในครั้งนี้ด้วย
 

นางหนูพิศ โลเกตุ อายุ 48 ปี แม่ของนายอนันต์ฯ หรือบอย ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติแล้วบอยจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องกับใคร จะชอบทำกิจกรรมทางการเมือง และไม่เคยบนว่ามีปัญหาทะเลาะหรือขัดแย้งกับใคร รวมทั้งไม่เคยพูดถึงการอยากฆ่าตัวตายแต่อย่างใด ซึ่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บอยก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้านที่ จ.ร้อยเอ็ดกับแม่ 4 วัน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ก็เดินทางมาร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกลที่ อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนที่จะหายตัวไป ตอนนี้คาใจมากว่าอะไรเป็นเหตุให้เขาคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งแม่ก็ยังไม่เชื่อว่าลูกชายจะคิดสั้นผูกคอฆ่าตัวตาย โดยต้องรอผลการตรวจโควิดก่อน หลังจากนั้นก็จะต้องรอผลการชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง หากผลออกมาว่าฆ่าตัวตายจริงๆ ก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่ จ.ร้อยเอ็ดต่อไป
 

ด้านนายสุภวัฒน์ โลเกตุ อายุ 21 ปี น้องชายของนายอนันต์ฯ กล่าวว่า โดยปกติแล้วพี่ชายจะเป็นคนที่อารมณ์ดี และมักจะโทรศัพท์มาคุยกับตนเองตลอด ถ้ามีปัญหาอะไรเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเล่าให้ฟังตลอด ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่เห็นว่าพี่ชายพูดถึงเรื่องอะไรที่เครียดจนถึงกับฆ่าตัวตาย อย่างมาก็แค่เรื่องเป็นห่วงน้องๆ กลัวว่าจะไม่มีเงินใช้กัน ส่วนเรื่องการเมืองพี่ชายไม่เคยเล่าให้ฟัง ตนจึงไม่รู้ลึกมาก ได้พูดคุยล่าสุดก็ช่วงก่อนสงกรานต์ ที่พี่ชายโทรศัพท์มาสอบถามว่าจะกลับบ้านด้วยกันหรือไม่ จะได้มารับ ซึ่งตนเองไม่ได้กลับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย มารู้อีกทีก็มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าพี่ชายผูกคอฆ่าตัวตายแล้ว ซึ่งตนเองไม่เชื่อว่าพี่ชายจะคิดสั้นผูกคอฆ่าตัวตายได้ เพราะพี่ชายจะเป็นคนที่ร่าเริงตลอด และไม่เคยมีเรื่องกับใครเลย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสืบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างตรงไปตรงมา หากมีการฆาตกรรมจริงๆ ก็ขอให้เร่งจับตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
 

พ.ต.อ.ฆนรพ รัตนใหม่ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติฯ เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของชายที่ผูกคอเสียชีวิตว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับรูปคดีอะไร โดยที่เกิดเหตุยังพบบุหรี่ แว่นสายตา ส่วนเชือกที่ใช้ผูกคอ จากการสอบถามพยานซึ่งเป็นชาวบ้านใกล้ที่เกิดเหตุให้รายละเอียดว่า เป็นเชือกที่ใช้ผูกของที่วางอยู่ในศาลา อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยืนยันได้ คงต้องรอผลชันสูตรพลิกศพของแพทย์นิติเวช ถือเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง